" อีกระหรี่ อีดอก อีสัตว์ อีเหี้ย เอาซะดีไหม "

ผู้เสียหายนำใบปลิวออกแจกว่า ผู้ต้องหามีความประพฤติไม่ดีทางเพศกับนาย ช. ผู้ต้องหาได้มาแจ้งความร้องทุกข์ ขณะที่ผู้ต้องหาและนาย ช.ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ผู้เสียหายเดินเข้ามาแล้วพูดว่า "อายเป็นด้วยหรอจ๊ะ" ผู้ต้องหาพูดว่า " ไม่อายหรอก ไม่ใช่ดารา " ผู้เสียหายพูดว่า " อุ๊ยถนนหรือคะ" ผู้ต้องหาจึงพูดว่า " อีกระหรี่ อีดอก อีสัตว์ อีเหี้ย เอาซะดีไหม" ต่อหน้าพนักงานสอบสวนและประชาชนผู้มาติดต่อราชการ ผู้เสียหายจึงได้มาร้องทุกข์ แม้คำว่า " อีกระหรี" จะหมายถึงหญิงโสเภณี หรือหญิงค้าประเวณีก้ตาม ในขณะที่ผู้ต้องหาพูดถ้อยคำดังกล่าวมีเจตนาด่าทอผู้เสียหายด้วยอารมณ์โกรธ เพราะมีการโต้เถียงกันไปมา มิได้ทำให้ผู้ได้ยินเชื่อไปตามนั้น ไม่พอรับฟังว่าเป็นการหมิ่นประมาท แต่เป็นการดูหมิ่นซึ่งหน้า ซึ่งพนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องอยู่แล้ว ชี้ขาดไม่ฟ้องผู้ต้องหาในข้อหาหมิ่นประมาท ชี้ขาดความเห็นแย้ง ๓๖๗/๒๕๕๑
ข้อสังเกตุ ๑. คำว่า " อีกระหรี่" หมายถึงหญิงค้าประเวณี ถ้อยคำดังกล่าวเป็นการ " ดูหมิ่นซึ่งหน้า" ว่า ผู้เสียหายหาเลี้ยงชีพด้วยการขายตัว ทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียง ถูดดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง
๒. แต่ถ้อยคำดังกล่าว พูดออกมาแล้วไม่มีใครเชื่อว่าเป็นตามที่พูดมาเพราะเป็นการด่าทอกันไปมา เป็นแค่การ "ดูหมิ่นซึ่งหน้า" แต่ไม่ใช่หมิ่นประมาท เช่นเดียวกับที่ด่าคนอื่นว่า "ไอ้ชาติหมา" คำพูดนี้ก็ไม่มีใครเชื่อว่าคนจะเป็นหมาจึงเป็นแค่การดูหมิ่นซึ่งหน้า ไม่ใช่ถ้อยคำหมิ่นประมาทแม้จะมีบุคคลที่สามได้ยินก็ตาม