ค้นหาบล็อกนี้

วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2559

พยายามปล้นทรัพย์

จำเลยกับพวกเข้าไปบ้านที่ผู้เสียหายพักอาศัยอยู่ในเวลากลางคืนเพื่อลักสายไฟฟ้า แล้วทำร้ายร่างกายผู้เสียหายเพื่อความสะดวกแก่การลักทรัพย์ แต่ผู้เสียหายวิ่งหนี้ไปแจ้งความต่อพนักงานตำรวจ จำเลยกับพวกจึงหลบหนีโดยไม่ได้เอาทรัพย์สายไฟไป
ปัญหามีว่าจำเลยมีความผิดฐานใด......
การทำร้ายเพื่อความสะดวกแก่การเอาทรัพย์ แต่ยังไม่ได้เอาทรัพย์ไปจะเป็นการเตรียมการเพื่อปล้นทรัพย์หรือลงมือปล้นทรัพย์แล้ว
*****คดีนี้ผู้เสียหายถูกตีได้รับอันตรายแก่กาย ก็วิ่งหนีไปแจ้งความ พวกจำเลยก็พากันหบหนี โดยยังไม่ได้แตะต้องทรัพย์ จำเลยฎีกาว่า การทำร้ายเป็นการตระเตรียมการเพื่อปล้นทรัพย์ แต่ยังไม่ถึงขั้นลงมือปล้นทรัพย์ คำพิพากษาศาลฎีกา 6984/2558 วินิจฉัยว่า จำเลยทั้งสามบุกรุกเข้าไปในสถานที่เก็บรักษาสายไฟฟ้า ทั้งยังใช้อาวุธทำร้ายผู้เสียหายซึ่งครอบครองดูแลสถานที่นั้น อันเป็นส่วนหนึ่งของการปล้นทรัพย์ ไม่ใช่แค่เพียงตระเตรียมการ แม้จำเลยทั้งสามจะวิ่งหลบหนีไปก่อนโดยยังไม่เตะสายไฟฟ้า ก็เป็นการลงมือกระทำความผิดแล้ว แต่กระทำไปไม่ตลอด การกระทำของจำเลยทั้งสามจึงเป็นการร่วมกันพยายามกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์ ตามป.อ.มาตรา 340 วรรคสอง ประกอบมาตรา 80 และมาตรา 340 ตรี (เนื่องจากเตรียมรถบรรทุกมาบรรทุกสายไฟ) นอกจากนี้จำเลยยังมีความผิดร่วมกันบุกรุกเคหสถาน โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือร่วมกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป ในเวลากลางคืน ตามมาตรา 365(1)(2)(3) ปรกอบมาตรา 364และมาตรา 83 และผิดฐานทำร้ายร่างกายตามมาตรา 295 อีกบทด้วย

ไม่มีความคิดเห็น: