ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559

“สหกรณ์ออมทรัพย์”

๑.สหกรณ์ออมทรัพย์กรมพัฒนาชุมชนจำกัด แจ้งการขาดสมาชิกสภาพสหกรณ์ออมทรัพย์ หักเงินค่าหุ้นและเงินที่มีสิทธิ์ได้จากกองทุนบำเน็จบำนาญข้าราชการเพื่อชำระหนี้เงินกู้สามัญและเงินกู้ฉุกเฉินที่ค้างชำระกับสหกรณ์ออมทรัพย์และเรียกให้ผู้ค้ำประกันร่วมชำระหนี้ที่เหลือ เนื่องจากผู้กู้ถูกลงโทษทางวินัยให้ออกจากราชการ เป็นการกระทำโดยไม่ชอบ ผู้กู้ขอให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้คืนสิทธิ์และระงับการกระทำข้างต้นของสหกรณ์ออมทรัพย์ แม้สหกรณ์ออมทรัพย์จัดตั้งขึ้นตามพรบ.สหกรณ์ พ.ศ. ๒๕๒๒ โดยจดทะเบียนและมีฐานะเป็นนิติบุคคล ดำเนินกิจการสหกรณ์ตามประเภทของสหกรณ์ที่จดทะเบียนโดยมีคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ที่มาจากการเลือกตั้งโดยสมาชิกสหกรณ์ อยู่ในการกำกับดูแลของคณะกรรมการพัฒนาสหกรณ์แห่งชาติและนายทะเบียนสหกรณ์ก็ตาม แต่เมื่อการดำเนินการของสหกรณ์ออมทรัพย์ เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในกฎหมายสหกรณ์ซึ่งเป็นไปในเชิงธุรกิจ ไม่มีลักษณะดำเนินกิจการทางปกครอง สหกรณ์ออมทรัพย์ไม่มีฐานะเป็นหน่วยงานทางปกครอง ข้อพิพาทดังกล่าวจึงไม่ใช่คดีปกครอง คำสั่งศาลปกครองสูงสุด ๖๕๒/๒๕๕๒
ข้อสังเกต ๑.กรณีมีข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ หากเป็นการพิพาทในกระบวนการยุติธรรมในทางแพ่งแล้วก็ไม่ใช่คดีพิพาททางปกครองที่จะขึ้นศาลปกครอง
๒. สหกรณ์ออมทรัพย์กรมการพัฒนาชุมชน แม้จัดตั้งตามพรบ.สหกรณ์ฯมีฐานะเป็นนิติบุคคลก็ตาม แต่เมื่อการดำเนินการของสหกรณ์ออมทรัพย์มีวัตถุประสงค์ไปในเชิงธุรกิจ คือรับฝากเงินจากสมาชิกพร้อมให้ดอกเบี้ยตอบแทนมีเงินปันผลให้ และในขณะเดียวกันก็ให้สมาชิกทำการกู้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำกว่าสถาบันทางการเงินอื่นโดยดอกเบี้ยที่ได้จากการให้กู้นำไปเป็นดอกเบี้ยแก่คนที่นำเงินมาฝากและจัดสรรเป็นเงินปันผลให้แก่สมาชิกหรืออาจนำเงินฝากของสมาชิกไปให้สหกรณ์หรือหน่วยงานอื่นทำการกู้ยืมเพื่อนำดอกเบี้ยที่ได้มาจัดสรรเป็นดอกเบี้ยแก่สมาชิกที่ฝากเงินหรือนำมาเป็นเงินปันผลแบ่งให้สมาชิกสหกรณ์ ลักษณะการกระทำดังกล่าว จึงเป็นการดำเนินการในทางธุรกิจเช่นเดียวกับธนาคารหรือสถาบันทางการเงินอื่น แม้จะดำเนินการโดยข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชนซึ่งเป็น “ เจ้าหน้าที่ของรัฐ” ก็ตาม และแม้กรมการพัฒนาชุมชนจะเป็นกรมเป็นส่วนราชการอันถือว่า “ เป็นหน่วยงานทางปกครอง” ก็ตาม แต่เมื่อไม่ได้ใช้อำนาจในทางปกครองหรือดำเนินกิจการปกครอง เพราะไม่ใช้การกระทำการแทนรัฐในการจัดทำบริการสาธารณะหรือจัดให้มีสิ่งสาธารณูปโภคหรือแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติไม่มีลักษณะเป็นไปในทางปกครองและ การเป็นสมาชิกสหกรณ์ทำสัญญากู้เงินสหกรณ์ก็เพื่อการออมเงินและกู้ยืมเงินจากสหกรณ์ ทั้งไม่ใช่สัญญาสัมปทาน การทำสัญญากู้ยืมเงินจากสหกรณ์จึงไม่ใช่สัญญาทางปกครอง แม้จะเป็นกรณีพิพาทกับหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่ก็เป็นกรณีพิพาทในสัญญาทางแพ่งตามกระบวนพิจารณาทางแพ่ง มิใช่พิพาทกันในสัญญาทางปกครองหรือพิพาทกรณีการทำละเมิดเกี่ยวกับหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจาการใช้อำนาจตามกฏหมายหรือกฏ หรือคำสั่งทางปกครอง การที่สหกรณ์จำกัด แจ้งการขาดสมาชิกสภาพสหกรณ์ออมทรัพย์ หักเงินค่าหุ้นและเงินที่มีสิทธิ์ได้จากกองทุนบำเน็จบำนาญข้าราชการเพื่อชำระหนี้เงินกู้สามัญและเงินกู้ฉุกเฉินที่ค้างชำระกับสหกรณ์ออมทรัพย์และเรียกให้ผู้ค้ำประกันร่วมชำระหนี้ที่เหลือ เนื่องจากผู้กู้ถูกลงโทษทางวินัยให้ออกจากราชการจึงเป็นการกระทำการไปตามกฏหมายและระเบียบข้อบังคับของสหกรณ์ เป็นเรื่องพิพาทกันในทางแพ่งในการดำเนินกระบวนพิจารณาทางแพ่ง ไม่ใช่การดำเนินการทางกระบวนพิจารณาทางปกครองที่ศาลปกครองจะมีอำนาจรับไว้ดำเนินการได้ ดังนั้น การฟ้องขอให้เพิกถอนการกระทำดังกล่าวโดย ขอให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้คืนสิทธิ์และระงับการกระทำข้างต้นของสหกรณ์ออมทรัพย์ จึงไม่ใช่คดีที่ศาลปกครองจะรับไว้พิจารณาได้

ไม่มีความคิดเห็น: