๑.ยืมปุ๋ยเพื่อทำไร่ยาสูบ แม้สัญญายืมไม่ได้กำหนดเวลาคืน แต่การให้ยืมสิ่งดังกล่าวเพื่อใช้ในฤดูกาลทำใบยาสูบ เมื่อสิ้นกาลแล้วก็ต้องส่งคืนหากใช้ไม่หมด ส่วนที่ใช้ไปแล้วไม่อาจส่งคืนได้ต้องใช้ราคา เป็นกรณีที่ไม่ได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ตามปฏิทินเป็นเพียงอนุมานจากพฤติการณ์ทั้งปวง การที่จำเลยไม่ส่งคืนของที่ยืมเมื่อสิ้นระยะเวลาที่อนุมานจากพฤติการณ์ใดนั้นก็ยังไม่ตกเป็นผู้ผิดนัด แต่เมื่อโจทก์มีหนังสือให้จำเลยคืนของที่ยืมภายในเวลาที่กำหนด จำเลยไม่คืนจึงตกเป็นผู้ผิดนัดนับแต่วันถัดจากวันที่กำหนด คำพิพากษาฏีกา ๕๙๙/๒๕๓๕
๒.กฏหมายไม่ได้กำหนดรูปแบบการเตือนเอาไว้ จะเตือนด้วยหนังสือหรือวาจาก็ได้ คำพิพากษาฏีกา๘๗๒//๒๕๒๗
๓.ตั้งตัวแทนให้ไปเตือนก็ได้ คำพิพากษาฏีกา ๕๒๗/๒๔๘๒
๔.เตือนให้ลูกหนี้ชำระหนี้โดยชอบแล้วลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ เจ้าหนี้มีหนังสือเตือนอีก ไม่มีผลทำให้ลูกหนี้ที่ตกเป็นผู้ผิดนัดแล้วกลายเป็นไม่ผิดนัด คำพิพากษาฏีกา ๕๐๓๒/๒๕๓๔
๕.ฟ้องเพิกถอนการโอนหุ้น ตราบใดยังไม่มีคำพิพากษายังถือว่าโอนโดยชอบ คำพิพากษาฏีกา ๓๕/๒๕๓๓
๖.ไม่ปรากฏว่าเตือนเมื่อใด ให้ถือว่าผิดนัดนับแต่วันฟ้อง คำพิพากษาฏีกา ๑๓๐๒/๒๕๓๕
๗.พิพากษาให้ดอกเบี้ยได้แต่วันฟ้อง คำพิพากษาฏีกา ๘๗๒/๒๕๒๗
ข้อสังเกต ๑. หนี้ที่ไม่ได้กำหนดชำระตามวันแห่งปฏิทิน เมื่อหนี้ถึงกำหนดชำระแล้ว เจ้าหนี้ได้เตือนลูกหนี้ ลูกหนี้ก็ยังไม่ยอมชำระ ถือลูกหนี้ผิดนัดเพราะเขาเตือนแล้ว ป.พ.พ. มาตรา ๒๐๔ แต่หากเป็นหนี้ที่กำหนดชำระตามวันแห่งปฏิทิน ถึงกำหนดชำระเมื่อไหร่แล้วไม่ชำระ ถือลูกหนี้ผิดนัดโดยไม่ต้องเตือน ป.พ.พ. มาตรา ๒๐๔ วรรคสอง แต่หากเป็นหนี้ละเมิดถือผิดนัดนับแต่วันทำละเมิด ป.พ.พ. มาตรา ๒๐๖ ถ้าเวลาอันจะพึงรับชำระหนี้ไม่ได้กำหนดลงไว้หรือจะอนุมานจากพฤติการณ์ทั้งปวงก็ไม่ได้ เจ้าหนี้ย่อมเรียกให้ชำระหนี้ได้โดยพลัน ป.พ.พ. มาตรา ๒๐๓ วรรคแรก เมื่อเจ้าหนี้เรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้โดยพลันถือหนี้ถึงกำหนดแล้ว เมื่อเป็นหนี้ที่ไม่ได้กำหนดชำระไว้ตามปฏิทิน เจ้าหนี้ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าก่อนการชำระหนี้ ซึ่งอาจคำนวณนับได้ตามวันแห่งปฏิทินให้ลูกหนี้ชำระหนี้ ลูกหนี้ไม่ได้ชำระหนี้ถือลุกหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัด
๒..ยืมปุ๋ยเพื่อทำไร่ยาสูบ เป็นการยืมใช้สิ้นเปลือง ถือได้ว่าผู้ให้ยืมได้โอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ให้ยืมนั้นไปมีปริมาณเป็นกำหนดแก่ผู้ยืม โดยผู้ยืมต้องคืนทรัพย์สินเป็นประเภท ชนิด ปริมาณ เดียวกับที่ให้ยืมตาม ป.พ.พ. ๖๕๐ เว้นเสียแต่ผู้ให้ยืมจะยอมรับทรัพย์สินอื่นแทนทรัพย์ที่ให้ยืม.ก็เป็นกรณีที่เจ้าหนี้ยอมรับชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระหนี้ที่ตกลงกันไว้ หนี้ย่อมเป็นอันระงับสิ้นไปตาม ป.พ.พ. . มาตรา ๓๒๑.. แต่หากเจ้าหนี้ไม่ยอมรับทรัพย์อื่นแทนทรัพย์สินประเภท ชนิด ปริมาณเดียวกับที่ยืมแล้ว ย่อมเป็นกรณีลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ให้ตรงตามความประสงค์อันแท้จริงแห่งมูลหนี้ เจ้าหนี้จะเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่การนั้นก็ได้ ป.พ.พ. มาตรา ๒๑๕ การยืมปุ๋ยเพื่อทำไร่ยาสูบ แม้สัญญายืมไม่ได้กำหนดเวลาคืน แต่การให้ยืมสิ่งดังกล่าวอนุมานได้ตามพฤติการณ์ว่ายืมเพื่อใช้ในฤดูกาลทำใบยาสูบ เมื่อสิ้นกาลแล้วก็ต้องส่งคืนหากใช้ไม่หมด ส่วนที่ใช้ไปแล้วไม่อาจส่งคืนได้ต้องใช้ราคาหรือมิเช่นนั้นก็ต้องคืนด้วยปุ๋ยประเภท ชนิด และปริมาณเดียวกับที่ยืม การยืมปุ๋ยเพื่อไปทำไร่จึงเป็นกรณีที่ไม่ได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ตามปฏิทินเป็นเพียงอนุมานจากพฤติการณ์ทั้งปวง การที่จำเลยไม่ส่งคืนของที่ยืมเมื่อสิ้นระยะเวลาที่อนุมานจากพฤติการณ์ใดนั้นก็ยังไม่ตกเป็นผู้ผิดนัด แต่เมื่อโจทก์มีหนังสือให้จำเลยคืนของที่ยืมภายในเวลาที่กำหนด จึงเป็นการเตือนให้ชำระหนี้แล้ว เมื่อ จำเลยไม่คืนจึงตกเป็นผู้ผิดนัดนับแต่วันถัดจากวันที่กำหนดให้คืน การคืนปุ๋ยที่ได้ใช้ไปแล้วหากไม่สามารถคืนเป็นปุ๋ยชนิด และปริมาณเดียวกับที่ยืมได้จึงต้องคืนเป็นตัวเงินหรือชดใช้ราคา เมื่อผิดนัดจึงสามารถเรียกดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดได้ร้อยละเจ็ดกึ่งต่อปี ป.พ.พ. มาตรา ๒๒๔ โดยถือว่าเป็นกรณีที่ต้องเสียดอกเบี้ย โดยได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ตามกฎหมาย(ป.พ.พ. มาตรา ๒๒๔)แล้ว จึงไม่จำต้องนำดอกเบี้ยตาม ป.พ.พ. มาตรา ๗ มาใช้บังคับ
๓.กฏหมายไม่ได้กำหนดรูปแบบการเตือนเอาไว้ จะเตือนด้วยหนังสือหรือวาจาก็ได้ .ตั้งตัวแทนให้ไปเตือนก็ได้ หากไม่ใช่เจ้าหนี้หรือตัวแทนเจ้าหนี้เช่น สามี หรือภรรยา บุตรของเจ้าหนี้ หรือบุคคลอื่นมีหนังสือเตือน ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นการเตือนโดยเจ้าหนี้ เป็นกรณีที่ไม่มีการเตือนให้ลุกหนี้ชำระหนี้จะถือว่าลุกหนี้ผิดนัดไม่ชำระหนี้เพราะมีการเตือนไม่ได้ เว้นแต่คู่สมรสหรือบุตรที่มีหนังสือเตือนนั้นได้รับการมอบอำนาจจากเจ้าหนี้ให้เป็นตัวแทนของตนในการเตือนให้ลูกหนี้ชำระหนี้ และการเตือนให้ชำระหนี้นั้นต้องเตือนไปยังลูกหนี้หนี้เท่านั้นจะเตือนไปที่คู่สมรสหรือบุตรไม่ได้ จะถือว่าคู่สมรสที่จดทะเบียนสมรสโดยชอบด้วยกฏหมายเป็นบุคคลเดียวกับลูกหนี้ จึงเตือนไปที่คู่สมรสถือเสมือนว่าได้เตือนลูกหนี้ดังนี้หาได้ไม่
๔.เตือนให้ลูกหนี้ชำระหนี้โดยชอบแล้วลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ เจ้าหนี้มีหนังสือเตือนอีกโดยกำหนดระยะเวลาให้ชำระหนี้ ไม่มีผลทำให้ลูกหนี้ที่ตกเป็นผู้ผิดนัดแล้วกลายเป็นไม่ผิดนัด แม้ลูกหนี้จะมาชำระหนี้ภายในระยะเวลาที่เตือนให้ชำระหนี้ครั้งที่สองก็ตาม เพราะเมื่อเตือนให้ชำระหนี้ในครั้งแรกได้กำหนดเวลาให้ลูกหนี้ชำระหนี้แล้ว ลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ภายในเวลาที่กำหนด ลูกหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัดแล้ว แม้เจ้าหนี้จะมีหนังสือเตือนให้ชำระหนี้ฉบับที่สองโดยกำหนดระยะเวลาชำระหนี้ไว้แล้วลูกหนี้ได้ชำระหนี้ภายในเวลาที่กำหนดในครั้งที่สองนี้ ก็ไม่ทำให้การที่ลูกหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัดในครั้งแรกกลายเป็นไม่ผิดนัดเพราะได้ชำระหนี้ภายในระยะเวลาที่เตือนเป็นครั้งที่สองแต่อย่างใดไม่
๕.ฟ้องเพิกถอนการโอนหุ้น ตราบใดยังไม่มีคำพิพากษายังถือว่าโอนโดยชอบ จะถือว่าผิดนัดโดยถือว่าวันฟ้องถือเป็นวันเตือนโดยถือว่าผิดนัดนับแต่วันเตือน(วันฟ้อง)หาได้ไม่ เพราะตราบใดยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้เพิกถอนต้องถือว่าโอนโดยชอบ จึงยังไม่อาจเรียกดอกเบี้ยได้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สามารถเรียกดอกเบี้ยได้นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาให้เพิกถอนการโอนหุ้น
๖.ไม่ปรากฏว่าเตือนเมื่อใด ให้ถือว่าวันที่ยื่นฟ้องเป็นการเตือนให้ชำระหนี้แล้ว เมื่อไม่ยอมชำระหนี้ถือผิดนัดนับแต่วันฟ้อง เมื่อผิดนัดนับแต่วันฟ้องจึงสามารถเรียกดอกเบี้ยได้แต่วันฟ้องเป็นต้นไป เมื่อเป็นหนี้เงินที่ไม่ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้จึงต้องชำระในอัตราร้อยละเจ้ดกึ่งต่อปีนับแต่วันผิดนัด ป.พ.พ. มาตรา ๒๒๔
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น