๑.จอดแพในลำคลองสาธารณะบังหน้าที่ดินคนอื่น เป็นการรบกวนการครอบครอง คำพิพากษาฏีกา ๓๓๖/๒๔๗๙
๒.เดินผ่านสวนคนอื่นโดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นการรบกวนการครอบครอง คำพิพากษาฏีกา ๑๒๗๒/๒๔๘๐
๓.บุกรุกเข้ากรีดยางในที่คนอื่นเป็นการรบกวนการครอบครอง คำพิพากษากีกา ๑๐๔๓/๒๔๙๓
๔.ทำรั่วล้อมในที่คนอื่น เป็นการรบกวนการครอบครอง คำพิพากษาฏีกา ๑๔๗๙/๒๔๙๖
๕.ขุดดินทำทำนบและทำลำเหมืองในที่ดินคนอื่น เป็นการรบกวนการครอบครอง คำพิพากษาฏีกา๑๐๘๔/๒๕๐๑
๖.เอามะพร้าวไปปลูกในที่ดินคนอื่น เป็นการรบกวนการครอบครอง คำพิพากษาฏีกา ๑๖๐๘/๒๕๑๓
๗.ตั้งปั้มน้ำมันในที่ดินคนอื่น เป็นการรบกวนการครอบครอง คำพิพากษาฏีกา ๑๖๓/๒๕๒๐
๘.ปลูกห้องแถวในที่ดินคนอื่น เป็นการรบกวนการครอบครอง คำพิพากษาฏีกา ๒๓๗๔/๒๕๒๑
๙.ละเมิดเป็นเหตุให้ต้นข้าวที่ปลูกไว้ในที่ครอบครองของผู้อื่นเสียหายเป็นการรบกวนการครอบครอง คำพิพากษาฏีกา ๖๒๖๔/๒๕๔๑
๑๐.เจ้าพนักงานออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้บุคคลอื่นยังไม่เรียกรบกวนการครอบครอง
๑๑.ที่ดินที่เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินในระหว่างราษฏร์ด้วยกัน ผู้ครอบครองมีสิทธิ์ฟ้องเพือปลดเปลื้องการครอบครองได้ คำพิพากษาฏีกา ๓๙/๒๔๙๕,๑๔๗๙๒๔๙๖,๑๖๐๘/๒๕๑๓,๑๖๓/๒๕๒๐,๓๑๘/๒๕๒๕,๖๕๙/๒๕๒๙,๗๙๖/๒๕๒๙
๑๒.ไม่มีบทกฎหมายใดให้อำนาจ “ ทางราชการ “ รบกวนการครอบครองของผู้อื่นโดยไม่ชอบได้ คำพิพากษาฏีกา ๘๕๖/๒๕๐๘
ข้อสังเกต ๑.การรบกวนการครอบครองในทรัพย์สินของผู้อื่น ผู้ครอบครองหรือถูกรบกวนการครอบครองในทรัพย์สินเพราะมีผู้อื่นเข้ามาเกี่ยวข้องโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย มีสิทธิ์ที่จะดำเนินการเพื่อปลดเปลื้องการรบกวนการครอบครองนั้นได้ อาจร้องต่อศาลขอให้สั่งห้ามรบกวนการครอบครองได้ ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๗๔ การ รบกวนการครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยปกติสุขในทางอาญาก็คือความผิดฐานบุกรุกนั้นเอง การรบกวนการครอบครองเป็นการกระทำให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ไม่สามารถใช้สอยหรือไม่ได้รับความสะดวกในการใช้สอยอสังหาริมทรัพย์ที่ตนครอบครองจากบุคคลที่ไม่มีสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์นั้น
๒.ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๗๔ใช้คำว่า “ ผู้ครอบครอง” ไม่ได้ใช้คำว่า “ เจ้าของ” ดังนั้นแม้ไม่ใช่เจ้าของแต่ได้ครอบครองก็ถืออยู่ในความหมายนี้ เช่น การเข้าไปครอบครองที่ดินที่เป็นสาธารณะประโยชน์แม้จะครอบครองโดยสงบเปิดเผยเจตนาเป็นเจ้าของนานเกินกว่า ๑๐ ปี ก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ จะอ้างการครอบครองปรปักษ์มาต่อสู้กับรัฐไม่ได้ แต่ในระหว่างราษฏร์ด้วยกันเองแล้วผู้ครอบครองก่อนย่อมมีสิทธิ์ดีกว่า เพราะได้เข้าครอบครองยึดถือเพื่อตนซึ่งใน ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๗๐ ให้ “ สันนิษฐานไว้ก่อน” ว่า ผู้ครอบครองนั้น ครอบครองโดยสุจริตโดยสงบและโดยเปิดเผย เมื่อเป็นผู้ครอบครองย่อมได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานของกฎหมายจึงมีหน้าที่เพียงนำสืบว่าตนเป็นผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ก็ได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานของกฎหมายแล้ว (ป.ว.พ. มาตรา ๘๔/๑) ส่วนใครไม่เห็นด้วยก็มีหน้าที่นำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานของกฎหมาย หากนำสืบไม่ได้หรือไม่นำสืบก็ต้องเป็นไปตามข้อสันนิษฐานของกฏหมาย คำพิพากษาฏีกา ๖๓๙/๒๔๗๔,๓๙๓/๒๔๘๓,๕๖๓/๒๔๘๓,๕๖๕/๒๔๘๘ การครอบครองระหว่างที่เป็นคดีความย่อมไม่ได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานของกฎหมาย คำพิพากษาฏีกาที่ ๒๑๙๗/๒๕๓๓ เพราะเมื่อยังอยู่ระหว่างเป็นคดีความกันจะถือครอบครองโดยสุจริตและโดยสงบไม่ได้ เป็นเรื่องที่ต้องไปพิสูจน์ทางศาลกันอีกที จึงถือว่าครอบครองโดยสงบและสุจริตไม่ได้ เพราะยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าใครเป็นผู้ครอบครองที่แท้จริง เช่น เข้าไปทำนาในที่ดิน แต่ถูกฟ้องทางอาญาว่าบุกรุก หรือถูกฟ้องทางแพ่งให้ขับไล่ มีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยว่าใครมีสิทธิ์ดีกว่าใคร ใครเป็นผู้ครอบครองที่แท้จริงจึงไม่อาจเรียกได้ว่าครอบครองโดยสงบและโดยสุจริต จึงไม่สามารถนำข้อสันนิษฐานกฎหมายมาใช้ได้
๓.สิทธิ์ของผู้ครอบครองในทรัพย์สินที่ครอบครอง ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๗๒ สันนิษฐานว่า เป็นสิทธิ์ที่ผู้ครอบครองมีตามกฎหมาย ตราบใดที่ยังครอบครองอยู่ตราบนั้นถือว่ายังมีสิทธิ์ครอบครองอยู่ หรือแม้แต่ในป.พ.พ. มาตรา ๑๓๐๓ กรณีหลายคนเรียกเอาสังหาริมทรัพย์ชิ้นเดียวกัน ใครเป็นผู้ครอบครองโดยสุจริต เสียค่าตอบแทนคนนั้นมีสิทธิ์ดีกว่า ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นสังหาริมทรัพย์หรืออสังหาริมทรัพย์กฏหมายถือว่าใครครอบครองคนนั้นมีสิทธิ์ดีกว่า
๔.การที่จอดแพไปบังหน้าดินคนอื่นแม้จะจอดในลำคลองสาธารณะก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปจอดขวางทางเข้าออกของผู้อื่น เจ้าของที่ดินที่ถูกแพจอดบังหน้าดินมีสิทธิ์ที่จะปลดเปลื้องการรบกวนการครอบครองนั้นได้ แม้ว่าจะไม่ได้เข้าไปจอดในที่ดินของคนอื่นแต่การจอดบังหน้าดินคนอื่นทำให้ เจ้าของที่ดินไม่อาจใช้สรอยที่ดินได้โดยสะดวกจึงเป็นการรบกวนการครอบครองของผู้อื่น หรือการเดินผ่านสวนคนอื่นโดยไม่มีสิทธิ์, หรือ การบุกรุกเข้าไปกรีดยางในที่ดินคนอื่น หรือ การเข้าทำรั่วล้อมในที่ดินคนอื่น หรือ การเข้าไปขุดดินทำทำนบและขุดดินทำเหมืองในที่ครอบครองของผู้อื่น หรือ การปลูกต้นไม้ในที่ดินคนอื่น หรือ การเข้าไปตั้งปั้มน้ำมันหรือปลูกห้องแถวในที่ดินคนอื่น หรือการทำให้เกิดความเสียหายต่อต้นข้าวที่ปลุกในที่ดินของคนอื่นจนเสียหายเหล่านี้เป็นการรบกวนการครอบครองในที่ดินของผู้อื่น เจ้าของ ผู้ครอบครองมีสิทธิ์ที่จะปฏิบัติการเพื่อยังความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ ทั้งอาจร้องขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามให้หยุดหรือไม่ให้รบกวนการครอบครองต่อไปได้ ส่วนในทางอาญาการที่เข้าไปกรีดยาง เข้าไปขุดดิน เข้าไปปลุกต้นไม้ เข้าไปขุดดินทำทำนบ ขุดดินทำเหมือง เข้าไปตั้งปั้มน้ำมัน ปลูกห้องแถวในที่คนอื่นเป็นการเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นเพื่อรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยปกติสุขอันเป็นความผิดฐานบุกรุก
๕.แม้ราษฏร์จะไม่มีสิทธิ์ที่จะครอบครองเป็นเจ้าของหรือได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินที่เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินก็ตาม ซึ่งไม่สามารถใช้ยันต่อรัฐหรือแผ่นดินได้ก็ตาม แต่ในระหว่างราษฏร์ด้วยกัน ใครเข้าครอบครองก่อนย่อมมีสิทธิ์ดีกว่าผู้ที่เข้าครอบครองที่หลัง แม้เป็นการครอบครองโดยไม่เกิดสิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่อาจอ้างว่าตนครอบครองปรปักษ์เพื่อมาใช้ยันกับแผ่นดินก็ตาม แต่ในระหว่างราษฏร์ด้วยกันแล้วใครครอบครองก่อนย่อมมีสิทธิ์ดีกว่าราษฏร์ที่ครอบครองทีหลัง ผู้ครอบครองคนแรกมีสิทธิ์ที่จะปฏิบัติการเพื่อยังความเสียหายโดยขอปลดเปลื้องทุกข์ที่เกิดจากการรบกวนการครอบครองได้
๖.ไม่มีบทบัญญัติใดให้ทางราชการหรือแผ่นดินที่จะเข้ารบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นได้หรือเข้ากระทำการใดอันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยปกติสุขไ ด้ ดังนั้นราษฏร์จึงมีสิทธิ์ที่จะขอให้ปลดเปลื้องการรบกวนการครอบครองได้ ดังนั้นทางราชการจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะไปปักหลักเขตและประกาศให้ที่ดินเป็นที่ดินสาธารณะในที่ดินซึ่งมีราษฏร์บุกเบิกเข้าทำกินในที่ดินที่ไม่ใช่ที่สาธารณะเมื่อพ.ศ.๒๔๙๗ แม้ราษฏร์จะยังไม่มีใบเหยียบย่ำ แต่เมื่อได้แจ้งการครอบครองตามแบบ สค๑แล้วย่อมเกิดสิทธิ์ครอบครองในที่ดินดังกล่าว
๕.การที่ทางราชการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดินให้แก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด ยังไม่เป็นการรบกวนการครอบครอง เพราะการรบกวนการครอบครองต้องเป็นการกระทำใดๆให้ผู้ครอบครองไม่อาจใช้สอยได้หรือได้รับประโยชน์ในอสังหาริมทรัพย์โดยปกติสุข ทั้งหนังสือรับรองการทำประโยชน์ก็มีเพียงหนังสือเอกสารแสดงสิทธิ์ครอบครองเท่านั้นไม่ใช่เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์แต่อย่างใด แม้ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๗๓ สันนิษฐานว่าผู้มีชื่อในทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิ์ครอบครองก็เป็นเพียงข้อสันนิษฐานของกฎหมาย ไม่ใช่บทบังคับเด็ดขาดที่จะนำสืบหักล้างไม่ได้ ลำพังการที่ได้รับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ยังไม่ใช่เอกสารหลักฐานว่าได้กรรมสิทธิ์ เป็นเพียงมีสิทธิ์ครอบครองตามข้อสันนิษฐานของกฎหมายเท่านั้น เมื่อเป็นข้อสันนิษฐานของกฎหมายจึงสามารถนำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานของกฎหมายได้ หรือแม้ได้รับโอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์(นส๓) หรือเพียงแต่ขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์(นส๓) แต่หากยังไม่มีการครอบครองตามความเป็นจริงก็ไม่อาจใช้สิทธิ์ปลดเปลื้องการรบกวนการครอบครองตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๗๔ได้ คำพิพากษาฏีกา ๒๑๖๘/๒๕๒๓,๓๐๑๖/๒๕๒๘ จึงเป็นข้อแสดงให้เห็นว่าลำพังการได้รับหนังสือรับรองการทำประโยชน์เพียงเท่านี้ยังไม่ถือว่ารบการครอบครอบครองซึ่งผู้ครอบครองมีสิทธิ์ที่จะให้ปลดเปลื้องการรบกวนการครอบครองตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๗๔ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น