ค้นหาบล็อกนี้

วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2559

“ค่าทดแทน ล่วงละเมิดทางเพศ”

๑.ขมขืนกระทำชำเราภรรยาคนอื่น แม้ศาลไม่พิพากษาให้หย่า สามีเรียกค่าทดแทนจากคนที่ขมขืนได้ คำพิพากษาฏีกา ๓๓๙/๒๕๐๙
๒.การล่วงเกินในทำนองชู้สาว แม้ภริยาสมัครใจหรือยินยอม สามีก็ยังมีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากผู้ล่วงเกินได้ แม้ภายหลังสามีภริยาจะได้จดทะเบียนหย่า สามีก็ยังมีสิทธิ์เรียกค่าทดแทน คำพิพากษาฏีกา ๑๑๓/๒๕๑๔
๓.ภริยามีชู้สามีไม่ฟ้องหย่า สามีมีสิทธิ์เรียกค่าทดแทนจากชายอื่นเนื่องจากล่วงเกินภริยาคนทางชู้สาวได้ .เพราะการล่วงเกินทำนองชู้สาวรวมถึงการมีชู้ด้วย คำพิพากษาฏีกา ๒๗๙๑/๒๕๑๕
๔.นอนกอดกับภริยาผู้อื่น หรือถึงขั้นร่วมประเวณี ก็ล้วนแต่ต้องถือว่าเป็นการล่วงเกินภริยาของเขาในทางชู้สาว สามีเรียกค่าทดแทนได้ คำพิพากษาฏีกา ๒๓๙๖/๒๕๒๒
๕.จำเลยทราบว่า ๖ เป็นหญิงมีสามี แต่ก็ยังร่วมหลับนอนด้วย ถือละเมิดสิทธิ์โจทก์ ต้องใช้ค่าทดแทน คำพิพากษาฏีกา ๒๘๔๗/๒๕๒๓
ข้อสังเกต ๑. สามีสามารถเรียกค่าทดแทนจากผู้ที่ล่วงเกินภรรยาไปในทางชู้สาว และภรรยาเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นซึ่งแสดงโดยเปิดเผยว่าตนมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับสามีของตนได้ แต่หากสามีหรือภรรยารู้เห็นเป็นใจให้อีกฝ่ายหนึ่งล่วงเกินคู่สมรสตนในทางชู้สาวหรือยินยอมให้คู่สมรสของตนมีความสัมพันธ์ทางชู้สาว แล้วก็จะเรียกค่าทดแทนไม่ได้ ป.พ.พ. มาตรา ๑๕๒๓
๒.การที่คู่สมรสมีชู้หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ คู่สมรสอีกฝ่ายฟ้องหย่าได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๕๑๖(๑) เมื่อศาลพิพากษาให้หย่า คู่สมรสสามารถเรียกค่าทดแทนจากคู่สมรสอีกฝ่าย หรือผู้ที่อุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องหรือผู้ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ต้องมีการหย่านี้ได้ ป.พ.พ. มาตรา ๑๕๒๓
๓.การร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณซึ่งเป็นเหตุหย่าได้นั้น การที่ “ร่วมประเวณี” แสดงว่าสมัครใจในการร่วมประเวณี ซึ่งคู่สมรสอีกฝ่ายสามารถฟ้องหย่าได้ แต่การ “ขมขืนกระทำชำเรา” คือคู่สมรสไม่ได้สมัครใจร่วมประเวณีจึงไม่เป็นเหตุฟ้องหย่าได้ ดังนั้นการที่ฝ่ายชายฟ้องหย่าฝ่ายหญิงเพราะการที่ฝ่ายหญิงถูกขมขืนกระทำชำเรา ไม่เป็นเหตุฟ้องหย่าตามกฎหมาย แม้ศาลไม่พิพากษาให้หย่าก็ตาม แต่การขมขืนกระทำชำเราคือการล่วงเกินทางชู้สาว สามีย่อมเรียกค่าทดแทนจากผู้ที่ล่วงเกินภรรยาตนในทำนองชู้สาวได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๕๒๓ วรรคสอง
๔.ตามวิเคราะห์ศัพท์คำว่า “ กระทำชำเรา” หมายความถึง การกระทำเพื่อสำเร็จความใคร่ของผู้อื่นโดยการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำกับอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปาก หรือใช้สิ่งอื่นใดกระทำกับอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผู้อื่นด้วย ตาม ป.อ. มาตรา ๒๗๖วรรค สอง ดังนั้นสามีอาจถูกชายอื่นขมขืนกระทำชำเราได้หากว่าชายอื่นใช้อวัยวะเพศสอดใส่เข้าไปในทวารหนักของสามี ดังนั้นมีปัญหาว่า ภรรยาสามารถเรียกค่าทดแทนจากชายอื่นที่ได้ล่วงละเมิดในทางชู้สาวกับสามีของตนได้หรือไม่นั้น เห็นได้ว่าตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๕๒๓วรรคสอง กฎหมายใช้คำว่า ภริยาจะเรียกค่าทดแทนจาก “หญิงอื่น “ ที่แสดงโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์กับสามีทางชู้สาว กฎหมายไม่ได้ใช้คำว่า “ ชายอื่น” ดังนั้น ภริยาไม่น่าที่จะเรียกค่าทดแทนจากชายอื่นที่ขมขืนกระทำชำเราสามีของตนเองได้ หรือในกรณีที่สามีของตนชอบร่วมประเวณีกับชายอื่นโดยยอมให้ชายอื่นสอดใส่อวัยวะเพศเข้าทางทวารหนักของตน กรณีนี้แม้จะมีการล่วงเกินในทางชู้สาว แต่เมื่อเป็นกรณีที่ “ชาย”กระทำต่อ “ชาย” ไม่ใช่กรณีที่ “หญิงอื่น “ กระทำต่อสามีแล้ว ไม่ครบองค์ประกอบในกฎหมายที่ภรรยาจะเรียกค่าทดแทนจากชายอื่นได้เช่นกัน
๕. จะเห็นได้ว่า ป.พ.พ. มาตรา ๑๕๒๓ บัญญัติเป็นกฎหมายก่อนที่จะมีการแก้ไข ป.อ. มาตรา ๒๗๖วรรคสอง ซึ่งขยายวิเคราะห์ศัพท์คำว่าขมขืนออกไปหลายอย่างไม่เฉพาะการร่วมประเวณีเท่านั้น แต่อย่างไรก็ดีก่อนที่จะมีการแก้ไข ป.อ. มาตรา ๒๗๖วรรคสอง การที่สามียอมให้ชายอื่นสอดใส่อวัยวะเพศเข้าทางทวารหนักก็เป็นการล่วงเกินกันในทางชู้สาว แต่กฎหมายก็ไม่ได้บัญญัติให้ฝ่ายภริยามีสิทธิ์ที่จะเรียกค่าทดแทนได้ แสดงเจตนารมณ์ผู้ออกกฎหมายต้องการให้ภริยาเรียกค่าทดแทนได้เฉพาะ “ หญิงอื่น” ที่มีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับสามีของตนเท่านั้น
๖.ปัญหาที่ตามมาคือ เหตุหย่าตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๕๑๖(๑) ใช้คำว่า “ อุปการะเลี้ยงดู ยกย่องผู้อื่นฉันท์ภริยาหรือสามี” หรือเป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ อีกฝ่ายฟ้องหย่าได้ กฎหมายใช้คำว่า “ ผู้อื่น” ดังนั้นสามีอาจยกย่องชายอื่นฉันท์ภรรยาก็ได้ เช่นซื้อบ้านให้อยู่ ให้การศึกษา ส่งเสียเลี้ยงดูให้เงินใช้ ซึ่งเป็นเหตุฟ้องหย่าได้ เพราะกฎหมายใช้คำว่า “ ผู้อื่น” ไม่ได้ใช้คำว่า “ หญิง” หรือ “ชาย” เมื่อใช้คำว่า “ ผู้อื่น” ย่อมแปลได้ว่ารวมทั้งหญิงและชาย เมื่อมีการอุปการะเลี้ยงดู ยกย่องฉันท์ภริยา แล้วก็เป็นเหตุฟ้องหย่าได้ หรือกรณีที่สามียอมให้ชายอื่นสอดใส่อวัยวะเพศเข้าทางทวารหนักจะถือเป็นการร่วมประเวณีหรือไม่อันจะเป็นเหตุให้ฟ้องหย่าได้นั้น เห็นได้ว่า วิเคราะห์ศัพท์คำว่า กระทำชำเรา ให้ความหมายรวมถึงการใช้อวัยวะเพศซกระทำกับทวารหนักด้วย ซึ่งเป็นวิเคราะห์ศัพท์ให้ความหมายคำว่า กระทำชำเรา ซึ่งก็คือ การกระทำที่ตนไม่สมัครใจแต่เป็นผู้ถูกกระทำ แต่ในกรณีที่สามียอมให้ผู้อื่นสอดใส่อวัยวะเพศทางทวารหนักของตน หรือสามีสอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปในช่องทวารหนักของชายอื่นซึ่งกระทำโดยสมัครใจไม่ใช่การขมขืนกระทำชำเราเพราะเป็นการกระทำโดยสมัครใจ ทั้งวิเคราะห์ศัพท์คำว่า “ร่วมประเวณี” ในพจนานุกรม ฉบับราชบัณทิตยสถาน ให้หมายความว่า เสพสังวาส , เป็นผัวเมียกัน, ซึ่งคำว่า เสพสังวาส ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณทิตยสถาน หมายความถึง การร่วมรส ร่วมรสรัก หรือร่วมเพศ ดังนั้น เมื่อมีการยอมให้มีการสอดใส่อวัยวะเพศเข้าทางทวารหนัก ไม่ว่าสามีจะเป็นฝ่ายกระทำหรือเป็นฝ่ายถูกกระทำก็ถือเป็นการร่วมรส ร่วมรัก หรือร่วมเพศกันแล้วตามวิเคราะห์ศัพท์ดังกล่าว ถือว่าเป็นการร่วมประเวณีกันแล้ว เมื่อกฎหมายใช้คำว่า “ ร่วมประเวณีกับ “ ผู้อื่น “ เป็นอาจิณ “ เป็นเหตุฟ้องหย่าได้ ดังนั้น ในกรณีนี้การที่สามียอมให้ผู้อื่นสอดใส่อวัยวะเพศในทวารหนักของตัวเอง หรือสามีเป็นคนสอดใส่อวัยวะเพศในทวารหนักของชายอื่นซึ่งถือเป็นการร่วมประเวณีตามความหมายในพจนานุกรมแล้ว จึงเป็นเหตุฟ้องหย่าได้ เป็นความเห็นส่วนตัวครับ
๗.ใน ป.พ.พ. มาตรา ๑๕๑๖(๑) ใช้คำว่า เป็นชู้ หรือมีชู้” ซึ่งคำว่า “ชู้” ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณทิตยสถาน หมายความว่า “ชาย”ที่ร่วมประเวณีกับ “ภรรยาคนอื่น” หรือ “หญิง” ที่มีสามีอยู่แล้วร่วมประเวณีกับ “ชายอื่น” ดังนั้น การที่ชายร่วมสังวาสกับชายด้วยกันย่อมไม่ใช่การมีชู้ เพราะตามวิเคราะห์ศัพท์ในพจนานุกรมฉบับราชบัณทิตยสถาน ไม่มีคำว่า “ชาย” ร่วมประเวณีกับ “ชายอื่น” จึงไม่น่าถือว่า ชายกระทำกับชายแล้วเป็นชู้กันได้จึงไม่อาจฟ้องหย่าโดยอ้างว่าสามีเป็นชู้กับชายอื่นได้ เป็นความเห็นส่วนตัวครับ
๘.เมื่อมีชายอื่นล่วงละเมิดทางชู้สาวกับภรรยาของตนแล้ว ก็เกิดสิทธิ์ที่สามีจะฟ้องเรียกค่าทดแทนได้ ไม่จำเป็นว่าสามีต้องฟ้องหย่าภริยาด้วย เพราะไม่ใช่เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด กฎหมายต้องการเพียงมีการล่วงเกินทางชู้สาวกับภริยาคนอื่นแล้ว สามีก็มีสิทธิ์ฟ้องเรียกค่าทดแทนจากชายที่ล่วงเกินทางเพศกับภรรยาของตนได้ หรือแม้ต่อมาจะหย่ากันในภายหลังเมื่อหย่าแล้วก็ขาดจากการเป็นสามีภรรยากัน แต่ก็ไม่ทำให้สิทธิ์ก่อนหน้านี้ที่มีสิทธิ์เรียกค่าทดแทนชายอื่นที่ล่วงเกินทางชู้สาวกับภรรยาตนสูญเสียไปไม่
๙.การล่วงเกินทำนองชู้สาว ไม่ว่าจะเป็นการกอด การร่วมประเวณี แล้วยังรวมถึงการมีชู้กันด้วยเพราะการมีชู้กันก็คือการการล่วงเกินทำนองชู้สาวด้วย ซึ่งสามีมีสิทธิ์ฟ้องเรียกค่าทดแทนได้

ไม่มีความคิดเห็น: