ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559

“ซื้อในราคาถูก”

ไม่มีประจักษ์พยานยืนยันผู้ต้องหาเป็นคนร้ายลักทรัพย์ทั้งลายนิ้วมือคนร้ายที่ติดที่บานเกร็ดในบ้านผู้เสียหายไม่ใช่ลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา พยานหลักฐานไม่พอฟ้องผู้ต้องหาในข้อหาลักทรัพย์ แต่การที่ผู้ต้องหารับซื้อโทรศัพท์ของกลางซึ่งเป็นทรัพย์ส่วนหนึ่งของผู้เสียหายจากคนที่ผู้ต้องหาไม่รู้จักมาก่อนในราคา ๒๐๐ บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาตามสภาพของโทรศัพท์ในขณะนั้นมาก และรีบจำหน่ายในวันรุ่งขึ้นน่าเชื่อว่ารับซื้อของกลางโดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้จากาการลักทรัพย์และขายไปเพื่อค้ากำไร หลักฐานพอฟ้องในข้อหารับของโจรเพื่อหากำไร ชี้ขาดความเห็นแย้ง ๓๓๓/๒๕๕๑
ข้อสังเกต ๑. เพียงแต่มีผู้พบเห็นผู้ต้องหาครอบครองโทรศัพท์อันเป็นทรัพย์บางส่วนของผู้เสียหายที่ถูกลักไป โดยไม่มีประจักษ์พยานยืนยันการกระทำผิดของผู้ต้องหา ผู้ต้องหาอาจเป็นคนร้ายที่ลักทรัพย์ไปหรืออาจช่วยซ่อนเร็น ช่วยจำหน่าย พาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับจำนำ หรือรับไว้โดยประการอื่นใดซึ่งทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์อันจะเป็นความผิดฐานรับของโจร
๒.ในความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถาน ไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นว่าใครเป็นคนร้าย ทั้งลายพิมพ์นิ้วมือแฝงที่พบเมื่อตรวจสอบกับลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ต้องหาแล้วปรากฏว่ามีลายเส้นไม่ตรงกัน ไม่อาจยืนยันได้ว่าเป็นลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ต้องหา เมื่อไม่มีทั้งประจักษ์พยานและพยานแวดล้อมกรณีอื่นๆที่จะนำมาให้เห็นว่าผู้ต้องหาเป็นคนร้ายรายนี้ จึงไม่อาจดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในข้อหาลักทรัย์ฯได้
๓.เพียงแต่มีผู้พบเห็นผู้ต้องหาครอบครองโทรศัพท์อันเป็นทรัพย์บางส่วนของผู้เสียหายที่ถูกลักไป โดยผู้ต้องหามีพฤติการณ์ที่รับซื้อโทรศัพท์ดังกล่าวในราคาถูกกว่าในท้องตลาดที่ขายโทรศัพท์อยู่ในขณะนั้น โดยรับซื้อในราคาเพียง ๒๐๐ บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาซื้อขายโดยทั่วไป ทั้งเป็นการซื้อจากบุคคลที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ผู้ต้องหาไม่ได้มีอาชีพในการรับซื้อหรือขายโทรศัพท์ ไม่มีการขอหลักฐานของผู้ขายว่าเป็นใครอยู่ที่ไหน ทั้งเมื่อซื้อแล้วต่อมาในวันรุ่งขึ้นก็รีบนำโทรศัพท์ดังกล่าวไปขายต่อเพื่อเอากำไร พฤติการณ์แสดงให้เห็นว่า ผู้ต้องหาน่าจะรู้หรือควรรู้ว่าทรัพย์ดังกล่าวได้มาจากการกระทำความผิดตามกฏหมาย การที่ผู้ต้องหารับซื้อไว้จึงเป็นการซื้อทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์เพื่อขายต่อ การกระทำของผู้ต้องหาจึงเป็นความผิดฐานรับของโจรเพื่อค้ากำไร
๔.ในทางปฏิบัติอาจทำได้สองกรณีคือ ฟ้องฐานรับของโจรเพื่อค้ากำไรเพียงบทเดียว หรืออาจฟ้องทั้งลักทรัพย์และรับของโจรเข้าไปเพื่อให้ผู้ต้องหาเลือกที่จะรับสารภาพว่าจะรับสารภาพฐานใด เพราะในความเป็นจริงผู้ต้องหาอาจเป็นคนร้ายที่ลักทรัพย์ก็ได้ เพียงแต่ที่ไม่พบลายมือแฝงเพราะผู้ต้องหาสวมถุงมือ หรือการเข้าตรวจที่เกิดเหตุโดยเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายอาจทำให้ลายมือแฝงสูญหายหรือถูกทำลายไปก็ได้ ส่วนที่ผู้ต้องหาอ้างว่ารับซื้อโทรศัพท์เพื่อขายต่ออาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้ จึงไม่แปลกที่จะฟ้องทั้งในความผิดฐานลักทรัพย์ฯหรือรับของโจรฯ
๕.ในการบรรยายฟ้องในความผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรหากบรรยายฟ้องไม่ดี ฟ้องจะขัดแย้งกันเพราะเมื่อเป็นคนร้ายที่ลักทรัพย์ฯแล้วย่อมไม่อาจเป็นความผิดฐานรับของโจรได้ หรือเมื่อเป็นคนรับของโจรแล้วก็ไม่อาจกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ได้ จึงมักบรรยายฟ้องในตอนแรกไม่ยืนยันว่าใครเป็นคนร้ายที่เข้าไปลักทรัพย์ แล้วต่อมาพบทรัพย์อยู่ในความครอบครองของผู้ต้องหาซึ่งผู้ต้องหาอาจเป็นคนร้ายที่ลักทรัพย์หรือมิเช่นนั้นก็เป็นความผิดฐานรับของโจร
๖.มักบรรยายฟ้องดังนี้
๖.๑เมื่อระหว่างวันที่.......(วันที่ทรัพย์ถูกลักไป) ถึงวันที่........(วันที่พบทรัพย์ของกลางที่อยู่ในความครอบครองของจำเลย) วันเวลาใดไม่ปรากฏแน่ชัด ได้มี “ คนร้าย” หลายคนได้บังอาจร่วมกันบุกรุกเข้าไปในบ้านอันเป็นเคหสถานที่อยู่อาศัยของนาย...........ผู้เสียหาย โดยร่วมกันใช้วัสดุแข็งไม่ทราบว่าเป็นอะไรงัดประตูบ้านอันเป็นสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์จนเปิดออกแล้วผ่านสิ่งกีดกั้นดังกล่าวเข้าไปลักเอา โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ..... ราคา......บาท ของนาย........ผู้เสียหายที่เก็บรักษาไว้ในเคหสถานที่อยู่อาศัยดังกล่าวไปโดยเจตนาทุจริต
๖.๒ต่อมาในวันที่.........(วันที่พบทรัพย์ในความครอบครองของจำเลย) มีผู้พบเห็นจำเลยครอบครองโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ......... ของผู้เสียหายที่ถูกลักไปดังกล่าวข้างต้นในฟ้องข้อ ๖.๑ทั้งนี้ ตามวันเวลาและสถานที่ดังกล่าวในฟ้องข้อ ๖.๑ จำเลยกับพวกได้บังอาจร่วมกันเป็นคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ในเคหสถานที่อยู่อาศัยของผู้เสียหายตามวิธีการดังกล่าวในฟ้องข้อ๖.๑โดยเจตนาทุจริต หรือมิเช่นนั้นระหว่างวันเวลาดังกล่าวในฟ้องข้อ ๖.๑ ถึงวันเวลาดังกล่าวในฟ้องข้อ ๖.๒ วันเวลาใดไม่ปรากฏแน่ชัด จำเลยได้บังอาจรับของโจร โดยช่วยซ่อนเร็น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ.......ของผู้เสียหายที่ถูกลักไปดังกล่าวในฟ้องข้อ ๖.๑ โดยจำเลยกระทำไปเพื่อค้ากำไร
เหตุดังกล่าวในฟ้องข้อ ๖.๑ และ ๖.๒ เกิดที่ตำบล...... อำเภอ....... จังหวัด........และตำบล.......อำเภอ...... จังหวัด.......เกี่ยวพันกัน

ไม่มีความคิดเห็น: