ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2559

“ฟ้องกับการชันสูตรพลิกศพ”

๑.พนักงานอัยการฟ้องคดีโดยไม่ได้มีการชันสูตรพลิกศพก็ได้ ไม่ผิดกฎหมาย คำพิพากษาฏีกา ๑๒๖๑/๒๔๘๑
๒. ป.ว.อ. มาตรา ๑๒๙ บัญญัติเพียง เมื่อทำการชันสูตรพลิกศพยังไม่เสร็จห้ามไม่ให้มีการฟ้อง กรณีที่ไม่มีการชันสูตรพลิกศพหรือการชันสูตรพลิกศพไม่สมบรูณ์ หาอยู่ในข้อห้ามฟ้องไม่ คำพิพากษาฏีกา ๑๒๙๙/๒๔๘๑
๓.ไม่มีการชันสูตรพลิกศพเพราะศพถูกเผาเสียก่อน โจทก์มีอำนาจฟ้องไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย คำพิพากษาฏีกา ๗๓๑/๒๔๘๘
๔.สัปเหรอเป็นผู้ทำการชันสูตรพลิกศพ ไม่มีแพทย์ประจำตำบลหรือแพทย์อื่น แม้การชันสูตรพลิกศพไม่สมบรูณ์ตามกฏหมาย แต่กฎหมายบัญญัติเพียงหากการชันสูตรพลิกศพไม่เสร็จห้ามฟ้อง หาได้ห้ามฟ้องเมื่อการชันสูตรพลิกศพไม่สมบรูณ์ หรือไม่มีการชันสูตรพลิกศพ คำพิพากษาฏีกา ๓๙๓/๒๔๘๙
๕.แม้ชันสูตรพลิกศพทำโดยไม่ชอบ ก็ไม่มีกฎหมายห้ามฟ้อง คำพิพากษาฏีกา ๓๖๓/๒๔๙๓
๖.การชันสูตรพลิกศพเป็นส่วนหนึ่งของการรวบรวมพยานหลักฐานตามอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวน เมื่อพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนโดยชอบด้วยกฎหมาย แม้ไม่มีการชันสูตรพลิกศพก็หาเป็นเหตุให้พนักงานอัยการไม่มีอำนาจฟ้องไม่ คำพิพากษาฏีกา ๒๔๑๐/๒๕๓๐
ข้อสังเกต ๑.เมื่อปรากฏแน่ชัด หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าบุคคลใดตายโดยผิดธรรมชาติ คือ ฆ่าตัวตาย ถูกผู้อื่นทำให้ตาย ถูกสัตว์ทำร้ายตาย ตายโดยอุบัติเหตุ หรือตายโดยไม่ปรากฏเหตุ หรือตายในระหว่างการควบคุมของเจ้าพนักงาน ให้มีการชันสูตรพลิกศพ โดยให้ทำการสอบสวนรวมทั้งการชันสูตรพลิกศพ ในกรณีที่ความตายเป็นผลจากกากรกระทำผิดทางอาญา ถ้าการชันสูตรพลิกศพยังไม่เสร็จ ห้ามไม่ให้ฟ้องผู้ต้องหาต่อศาล ป.ว.อ. มาตรา ๑๔๘,๑๒๙
๒.การชันสูตรพลิกศพต้องทำเป็นหนังสือแสดงเหตุและพฤติการณ์ที่ตาย ผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน เมื่อใด หากถูกทำร้ายตาย ให้กล่าวว่าใครเป็นคนทำหรือสงสัยใครเป็นผู้กระทำผิดเท่าที่จะทราบได้ ป.ว.อ. มาตรา ๑๕๔ กรณีความตายไม่ได้เกิดจากการกระทำความผิดทางอาญา เช่น เป็นโรคตาย หรือ ฆ่าตัวตาย เมื่อพนักงานสอบสวนทำสำนวนการชันสูตรพลิกศพเสร็จส่งสำนวนให้พนักงานอัยการพิจารณา เมื่อพนักงานอัยการพิจารณาแล้วเห็นว่าความตายไม่ได้เกิดจากการกระทำความผิดทางอาญา พนักงานอัยการจะส่งสำนวนชันสูตรพลิกศพไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อพิจารณา ป.ว.อ. มาตรา ๑๕๖ เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาแล้วเห็นว่าความตายไม่ได้เกิดจากการกระทำความผิดทางอาญา ผู้ว่าราชการจังหวัดจะส่งสำนวนคืนพนักงานอัยการ เพื่อพนักงานอัยการจะส่งสำนวนคืนพนักงานสอบสวนอีกทีหนึ่ง
๓. ป.ว.อ. มาตรา ๑๒๙ ห้ามไม่ให้พนักงานอัยการยื่นฟ้องหากการชันสูตรพลิกศพยังไม่เสร็จเท่านั้น แต่ไม่มีบทกฎหมายใดห้ามไว้ว่า หากไม่มีการชันสูตรพลิกศพ หรือการชันสูตรพลิกศพไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้วห้ามพนักงานอัยการฟ้อง ดังนั้นเมื่อการชันสูตรพลิกศพทำโดยสัปปะเหรอ ไม่ได้กระทำโดยแพทย์ทางนิติเวชซึ่งได้รับวุฒิบัตรหรือได้รับหนังสืออนุมัติจากแพทย์สภา หรือแพทย์ประจำโรงพยาบาลของรัฐ หรือแพทย์ประจำสำนักงานสาธารณะสุข หรือแพทย์ประจำโรงพยาบาลเอกชนหรือแพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม เป็นผู้ทำการชันสูตรพลิกศพ แม้การชันสูตรพลิกศพไม่ชอบด้วยกฏหมาย ก็ไม่มีกฎหมายห้ามฟ้องในกรณีนี้ เพียงแต่กฎหมายห้ามฟ้องเมื่อยังชันสูตรพลิกศพไม่เสร็จเท่านั้น แต่ไม่ได้ห้ามฟ้องเพราะไม่มีการชันสูตรพลิกศพหรือการชันสูตรพลิกศพไม่ชอบด้วยกฏหมาย ดูเพียงอย่างเดียวว่าการสอบสวนชอบด้วยกฏหมายหรือไม่ หากการสอบสวนชอบด้วยกฎหมาย พนักงานอัยการมีอำนาจฟ้อง
๔.ในกรณีที่ความตายเกิดจากการกระทำของเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติหน้าที่ราชการ เช่น การวิสามัญฆาตกรรมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ อ้างว่าเพื่อป้องกันตัว หรือการตายในความควบคุมของเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติการตามหน้าที่ เช่น ตายในระหว่างควบคุมตัวของพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจ หรือตายในระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำหรือทัณทสถาน ให้พนักงานอัยการและพนักงานฝ่ายปกครองตั้งแต่ระดับปลัดอำเภอหรือเทียบเท่าแห่งท้องที่ที่ศพนั้นอยู่เป็นผู้ชันสูตรพลิกศพร่วมกับพนักงานสอบสวนและแพทย์ตามที่ได้บรรยายไว้ในข้อสังเกตที่ ๓ เป็นผู้ทำการชันสูตรพลิกศพ เหตุผลที่ต้องให้พนักงานอัยการ พนักงานฝ่ายปกครอง เข้าร่วมในการชันสูตรพลิกศพเพื่อความใสสะอาดของการชันสูตรพลิกศพ เพื่อเป็นหลักประกันว่าผู้ตายไม่ได้ถูกฆ่าตายโดยเจตนา หรือการวิสามัญฆาตกรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นไปโดยโปร่งใส่เป็นการป้องกันตัวจริงๆไม่ใช่เป็นการนำไปยิงทิ้ง แต่ก็มีปัญหาที่เมื่อมีการวิสามัญฆาตกรรมไปแล้วกว่าจะมีการแจ้งพนักงานอัยการ พนักงานฝ่ายปกครอง กว่าจะไปถึงมีการเปลี่ยนแปลงเคลื่อนย้ายศพหรือไม่อย่างไร บางครั้งการชันสูตรพลิกศพในเรือนจำในเวลากลางคืนที่ผู้ต้องขังป่วยเป็นโรคตายก็มีข้อขัดข้องที่ไม่สามารถไปชันสูตรพลิกศพในเรือนจำเวลากลางคืนได้ การเข้าเรือนจำแม้ในเวลากลางวันก็เป็นอันตรายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัยการที่เป็นผู้หญิงหากต้องเข้าเวรชันสูตรพลิกศพทางปฏิบัติจึงต้องรอให้ถึงเวลาเช้าจึงเข้าไปชันสูตรพลิกศพ ซึ่งสิ่งที่ตามมาคือปัญหาการติดเชื้อโรคโดยเฉพาะผู้ต้องขังที่เป็นโรคเอด์ถึงแก่ความตายในเรือนจำ การชันสูตรพลิกศพต้องมีการตรวจตามเนื้อตัวร่างกายคนตายว่ามีบาดแผลจากการถูกทำร้าย มีบาดแผลจากการฟกซ้ำดำเขียวหรือไม่ มีกระดูกหักหรือไม่อย่างไร คอหักหรือไม่ การเข้าไปชันสูตรพลิกศพในเรือนจำแม้เป็นเวลากลางวันก็ต้องระวังตัว เพราะเมื่อเข้าไปในเรือนจำแล้วไม่สามารถพกอาวุธเข้าไปได้ แม้แต่โทรศัพท์มือถือก็ต้องฝากไว้ก่อนที่จะผ่านเข้าไปในประตูเรือนจำ
๕.การชันสูตรพลิกศพกรณีอ้างว่าวิสามัญฆาตกรรมเพื่อป้องกันตัวจากการถูกคนร้ายยิงก่อน แต่บางครั้งการชันสูตรพลิกศพก็มีปัญหาว่าเป็นจริงอย่างที่เจ้าหน้าที่อ้างหรือไม่ มีคดีอยู่คดีหนึ่ง เจ้าหน้าที่ขึ้นบนบ้านเพื่อตรวจค้นจับกุม ถูกผู้ตายยิงด้วยปืนรีวอลเวอร์(ปืนลูกโม้) สองนัด แล้วคนร้ายกระโดดลงจากบ้านยิงเจ้าหน้าที่อีกสองนัด จึงถูกเจ้าหน้าที่ยิงโต้ตอบถึงแก่ความตาย แต่เมื่อทำการตรวจดูที่ปืนของผู้ต้องหาซึ่งเป็นปืนรีวอลเวอร์(ปืนลูกโม้)บรรจุกระสุนได้ ๕ นัด เมื่อเจ้าหน้าที่อ้างว่าเมื่อเข้าตรวจค้นบนบ้าน ผู้ตายยิงเจ้าหน้าที่ ๒ นัด และเมื่อกระโดดลงจากบ้านยิงเจ้าหน้าที่อีกสองนัด กระสุนปืนควรเหลือ ๑ นัด แต่เมื่อตรวจดูที่ปืนพบว่าลูกกระสุนปืนเหลืออยู่ ๓ นัดที่ยังไม่ได้ยิง ซึ่งพยานวัตถุขัดแย้งกับคำให้การของเจ้าหน้าที่ หากเป็นไปตามที่เจ้าหน้าที่ให้การว่าคนร้ายยิงปืน ๔ นัด กระสุนควรเหลือ ๑ นัด ไม่ใช่ ๓ นัด
๖.หรือในกรณีอ้างว่ายิงป้องกันตัวโดยยิงต่อสู้กับคนร้ายด้านหน้า เมื่อคนร้ายถูกยิง ๑ นัด รูกระสุนปืนมีทางเป็นไปได้ ๓ แบบคือ ควรมี ๑ รู(คือรอยกระสุนเข้าแต่กระสุนฝังในไม่ทะลุออกมา) หรือ มี ๒ รู (คือรูกระสุนเข้า ๑ รู และรูกระสุนออก ๑ รู) หรือ ไม่มีรูกระสุนที่ร่างเลย(กรณียิงไม่ถูก) แต่จากการตรวจสภาพศพผู้ตายพบว่ามีรอยกระสุนปืน ๓ รู ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ยิง ๑ นัดแล้วจะมีรูกระสุนปืน ๓ รู ตามหลักนิติเวชวิทยา รอยกระสุนเข้ามีขนาดเล็ก รอยกระสุนออกจะมีขนาดใหญ่ เมื่อทำการชันสูตรพลิกศพพบว่ามีรอย ๑ รู เป็นรอยเล็ก และมีอีก ๑ รูเป็นรอยใหญ่ โดยรอยเล็กเข้าทางด้านหลัง แสดงว่ายิงด้านหลังทะลุด้านหน้าไม่ใช่ยิงด้านหน้าตามที่เจ้าหน้าที่ให้การ ส่วนรูออกด้านหน้าซึ่งเป็นรอยกระสุนออกมีเขม่าดินปืนติดอยู่ การที่จะมีคาบเขม่าดินปืนติดตามร่างกายแสดงว่ายิงในระยะใกล้หรือจ่อยิงติดตัว น่าเชื่อว่า เมื่อยิงจากด้านหลังทะลุด้านหน้าแล้วเอาปืนจ่อด้านหน้า(ตรงรูทางออกกระสุน)แล้วยิงเพื่อจะให้ออกทางด้านหลังเพื่อหวังจะให้รูทางออกของกระสุนปืนตรงกับรูทางเข้ารูแรกของกระสุนปืน แต่ปรากฏว่ากระสุนไม่ได้ออกทางรูทางเข้าแรกแต่ไปออกอีกรู จึงมีรอยกระสุนปืนที่ศพ ๓ รู จึงทำให้สงสัยว่าเป็นการยิงต่อสู้เพื่อป้องกันตัวโดยยิงกับคนร้ายด้านหน้าจริงหรอ หรือยิงคนร้ายด้านหลังขณะคนร้ายวิ่งหนี เมื่อยิงแล้วเขาตายกลัวความผิดจึงเอาปืนมาจ่อทางรูกระสุนออกที่ด้านหน้าแล้วยิงเพื่อต้องการให้รูออกทางรูแรก แต่รูกระสุนไม่ออกทางรูแรกแต่ไปออกอีกที จึงมีคาบเขม่าดินปืนติดที่ตัวผู้ตายทางด้านหน้าแสดงว่ายิงในระยะประชิด
๗.มีคดีหนึ่งเจ้าหน้าที่เอาตุ๊กตา ๑ ตัวมีเข็มหมุดปักทั่วร่างตุ๊กตามาปรึกษาว่า พี่แบบนี้ไหวไหม วิสามัญฆาตกรรม เข็มหมุดที่ปักคือรอยกระสุนปืนที่ยิง ดูแล้วเข็มหมุดน่าไม่ต่ำกว่า ๔๐ หรือ ๕๐ อัน แบบนี้เป็นวิสามัญฆาตกรรมจริงหรือ หรือในกรณีวิสามัญฆาตกรรม ๖ ศพ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ๓ คน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ๑ คนยิงคนร้าย ๒ คน หลังจากถูกจับแล้วพาเข้าไปที่บ้าน ผู้ตายทั้งหกศพถูกยิงที่ศีรษะทุกคน อ้างว่าคนร้ายมีอาวุธปืนเอ็มสิบหก แต่อาวุธปืนดังกล่าวที่แสดงให้ทางนักข่าวสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง กับอาวุธปืนเอ็มสิบหกที่ส่งไปตรวจพิสูจน์ มีรูระบายความไม่ร้อนไม่เท่ากัน ไม่ตรงกัน ปืนที่ให้นักข่าวดูกับปืนที่ส่งไปตรวจใช่กระบอกเดียวกันหรือไม่อย่างไร และมีพระมาบิณฑบาตร์ขอบ้าน เมื่อได้บ้านแล้วก็มีการรื้อบ้านออก ทำให้ไม่ทราบไม้อันไหนเป็นฝา ไม้อันไหนเป็นพื้นทำให้ไม่สามารถตรวจแนววิถีกระสุนได้ และไม้ที่รื้อที่มีรูกระสุนปืนมีการเอาสว่านเจาะรูที่ไม้ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบวิถีกระสุนปืนได้ บางครั้งการเข้าไปชันสูตรพลิกศพก็แค่รู้ว่ามีพิรุธเท่านั้นแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะคนตายพูดไม่ได้และสมัยนั้นกฎหมายไม่เอื้ออำนวย ไม่ทันวิทยาการที่เปลี่ยนไป แต่การมีพิรุธมากๆก็เป็นเหตุให้มีการแก้กฎหมายจากเดิมที่ไม่มีพนักงานอัยการ พนักงานฝ่ายปกครองเข้ามาร่วมในการชันสูตรพลิกศพ ก็ได้แก้กฎหมายให้มีพนักงานอัยการและพนักงานปกครองเข้าร่วมในการชันสูตรพลิกศพ มีการเขียนกฎหมายให้ชัดลงไปเลยว่า พนักงานอัยการมีอำนาจสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมในกรณีการสอบสวนชันสูตรพลิกศพได้ ไม่ต้องทำเป็นหนังสือส่งไปให้กฤษฏีกามานั่งตีความว่าอัยการมีอำนาจสั่งให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนในคดีชันสูตรพลิกศพหรือไม่อย่างไร ใครทำอะไรไว้แม้กฎหมายตามไม่ทันตามไม่ถึง แต่กฏแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ

ไม่มีความคิดเห็น: