รถจักรยานยนต์ของผู้ต้องหาจอดไว้ใกล้รถจักรยานยนต์ผุู้เสียหาย มียี่ห้อและรุ่นเดียวกัน กุญแจปลดล็อคและติดเครื่องยนต์ก็มีลักษณะเหมือนกันและใช้แทนกันได้ เมื่อรถหายผู้เสียหายแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจได้สกัดจับ ผู้ต้องหาได้แสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการแสดงสำเนารถจักรยานยนต์ของนาย ช เพือนผู้ต้องหาที่ ๑ โดยแจ้งว่านาย ช.อนุญาติให้ขับรถคันดังกล่าวไปช่วยเพือนที่รถจักรยานยนต์น้ำมันหมดที่จอดอยู่แยกประชานุกูล และขับรถผิดคันมาเพราะรถจอดอยู่ในที่จอดรถในลานจอดรถที่เกิดเหตุมียี่ห้อและรุ่นเดียวกัน เมื่อเอารถนาย ช. ที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถมาไขกุญแจรถก็สามารถติดเครื่องได้ พฤติการณ์ที่แสดงความบริสุทธิ์ขณะถูกจับกุมด้วยการแสดงเอกสารทะเบียนรถโดยเข้าใจผิดว่ารถที่ขี่เป็นรถของนาย ช. มีเหตุอันสมควรเชื่อว่าไม่มีเจตนาทุจริตที่จะลักเอารถผู้เสียหายไป แต่สำคัญผิดว่าเป็นรถผู้เสีหาย หลักฐานไม่พอฟ้อง ชี้ขาดไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้งสองฐานร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ชี้ขาดความเห็นแย้ง ๖๙๕๑/๒๕๕๑
ข้อสังเกต ๑. ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน รถจักรยานยนต์จอดใกล้กัน เป็นรถรุ่นและยี่ห้อเดียวกัน อาจเกิดความสับสนและขับรถผิดคันได้
๒.กุญแจรถสามารถปลดล็อครถและติดเครื่องรถได้ทั้งสองคัน(รถผู้เสียหายและรถของนาย ช.)
๓.เมื่อถูกจับกุมได้แสดงความบริสุทธิ์ด้วยการแสดงสำเนาคู่มือจดทะเบียนรถให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดู เมื่อนำกุญแจรถที่ผู้ต้องหาใช้ขับรถผู้เสียหายมาติดเครื่องรถของนาย ช. ก็สามารถติดเครื่องรถได้
พฤติการณ์น่าเชื่อว่าขับรถผิดคันมา คือขาดเจตนาในการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ เพราะสำคัญผิดไปว่ารถที่ตนขับเป็นรถของนาย ช. ไม่มีเจตนาทุจริตที่จะแสวงหาผลประโยชน์อันไม่ควรได้โดยชอบด้วยกฏหมาย
๔.จะมองในแง่ร้ายว่าผู้ต้องหามีเจตนาทุจริตเมื่อมาเจอรถที่มีลักษณะเหมือนของนาย ช. จึงลองเอากุญแจไขดูปรากฏว่าสามารถปลดล็อคและติดเครื่องยนต์ได้ จึงได้ขับรถไปแล้วจะย้อนกลับมาเอารถของนาย ช. ที่หลัง ก็ดูจะเป็นการมองโลกในแง่ร้าย โดยไม่มีหลักฐานใดยืนยันว่าผู้ต้องหามีเจตนากระทำการดังกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น