ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2559

"หากไม่จ่ายเบื้องบนจะมาถามเอง ไม่จ่ายเจ็บ"

ผู้ต้องหาที่ ๑เป็นเจ้าของวินรถจักรยานยนต์ ผู้ต้องหาที่ ๒ ที่ ๓ทำหน้าที่เก็บเงินแรกเข้าและค่าเสื้อวินจากผู้ที่นำรถจักรยานยนต์มาขี่รับจ้างเดือนละ ๑,๓๐๐บาท ต่อมาเดือนพฤษภาคม ๒๕๔๖ รัฐบาลประกาศนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพล ผู้ต้องหาที่ ๑ กับพวกจึงหยุดเก็บเงิน ต่อมากลางเดือน พ.ค.๒๕๔๖ ผู้ต้องหาที่ ๑ ที่ ๒ เรียกนาย ป.ไปพบบอกให้เรียกเก็บเงินจากผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เดือนละ ๖๐๐บาท แต่นาย ป.ไม่ทำตามและได้ร่วมกับนาย อ.ร้องเรียนผ่านหนังสือพิมพ์ ต่อมานาย อ.ถูกทำร้าย นาย ป.ถูกยิงตาย ครั้นเดือน ก.พ.๒๕๔๘ ผู้ต้องหาที่ ๓ เรียกนาย ท.และนาย ส. มาถามว่า สิ้นเดือนนี้จะเก็บค่าเสื้อวินเดือนละ ๖๐๐ บาท จะมีปัญหาหรือไม่โดยจะเก็บไปให้ผู้ต้องหาที่ ๑ นาย ท.และนาย ส. ไม่จ่าย ผู้ต้องหาที่ ๓ บอกหากไม่จ่ายเบื้องบนจะมาถามเอง ต่อมามีผู้นำประกาศมาติดไว้ที่วินมอเตอร์ไซค์มีข้อความว่า " ไม่จ่ายเจ็บ" ต่อมานาย ท.และนาย ส. ถูกทำร้าย คำว่า " เบื้องบนจะมาถามเอง" และการปิดประกาศว่า "ไม่จ่ายเจ็บ" และนาย ท.และนาย ส. ถูกทำร้าย พยานหลักฐานรับฟังได้ว่า ผู้ต้องหาที่ ๓ ลงมือกระทำความผิดไปตลอดแล้ว แต่การกระทำไม่บรรลุผล เพราะพยานทั้งหล่ายไม่ยอมจ่ายเงิน พยานหลักฐานพอฟ้องผู้ต้องหาที่ ๓ ฐานพยายามกรรโชก ส่วนผู้ต้องหาที่ ๑ ที่ ๒ ไม่มีพยานหลักฐานใดยืนยันว่าเป็นผู้ใช้ให้ผู้ต้องหาที่ ๓ กระทำผิดหรือร่วมกับผู้ต้องหาที่ ๓ หลักฐานไม่พอฟ้อง ชี้ขาดให้ฟ้องผู้ต้องหาที่ ๓ ในข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์และฐานพยายามขมขืนใจผู้อื่นให้กระทำการหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกขมขืนโดยใช้กำลังประทุษร้าย และ ชี้ขาดไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ ๑ ที่ ๒ ฐานร่วมกันพยายามกรรโชกและชี้ขาดไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ ๑ที่ ๒ ที่ ๓ ฐานร่วมกันพยายามขมขืนใจผู้อื่นให้กระทำการหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขมขืนใจโดยใช้กำลังประทุษร้าย ชี้ขาดความเห็นแย้ง๖๗/๒๕๕๑
ข้อสังเกต ๑.ไม่มีประจักษ์พยานยืนยันว่าผู้ต้องหาที่ ๑ที่ ๒ ใช้ให้ผู้ต้องหาที่ ๓ ไปเรียกเก็บเงินหรือได้ร่วมกับผู้ต้องหาที่ ๓ ในการเรียกเงิน หลักฐานไม่พอฟ้องผู้ต้องหาที่ ๑ ฐานพยายามกรรโชกหรือร่วมกันขมขืนใจฯ
๒.เมื่อการกระทำของผู้ต้องหาที่ ๑.ที่ ๒ ไม่ผิดฐาน "ร่วมกัน" ขมขืนใจฯ การกระทำของผู้ต้องหาที่ ๓ จึงไม่มีความผิดฐาน "ร่วมกัน" ขมขืนใจฯ ผู้ต้องหาที่ ๓ จึงมีความผิดเพียงขมขืนใจฯเท่านั้น แต่ไม่ได้ผิดฐาน "ร่วมกัน "ขมขืนใจ
๓.เรียกเงินค่าวินมอเตอร์ไซค์ หากไม่ให้เจ็บ แต่ผู้เสียหายไม่ยอมจ่าย จึงเป็นความผิดฐานพยายามกรรโชกทรัพย์เท่านั้น และผิดขมขืนใจฯ

ไม่มีความคิดเห็น: