ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2559

"ไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็น"

ผู้ต้องหาและผู้ตายมีเหตุโกรธเคืองกันเรื่องรุกล้ำที่ดินที่มีแนวเขตติดกัน ผู้ต้องหาขู่ฆ่าผู้ตายหลายครั้ง เคยใช้ปืนไล่ยิงบุตรผู้ตาย วันเกิดเหตุผู้ตาย ภรรยาและบุตรไปดำนา ได้ยินเสียงปืน ๑ นัดขณะนั้นผู้ตายอยู่ที่ไร่ไม่ได้ลงไปดำนาด้วยเข้าใจว่าชาวบ้านยิงนกยิงหนู เมื่อเลิกดำนากลับบ้านไม่พบผู้ตายจึงออกตามหาพบผู้ตายถูกยิงถึงแก่ความตาย จากการตรวจที่เกิดเหตุพบหมอนรองกระสุนปืนลูกซอง ขนาด ๑๒ จำนวน ๒ อัน น่าเชื่อว่าคนร้ายซุ่มยิงในป่าหญ้าห่างศพผู้ตาย ๑๐ เมตร พบรองเท้ายาง ๑ ข้างบริเวณที่ซุ่มยิง และพบอีกข้างห้างจากจุดซุ้มยิงไปทางเถียงนาผู้ต้องหา ๕ เมตร พบคาบเขม่าดินปืนติดบนกิ่งหญ้าในจุดที่ซุ่มยิง พนักงานสอบสวนเก็บเลือดผู้ตาย ๑ ถุงเล็กเป็นของกลาง ได้นำรองเท้ายางไปให้ภรรยาผู้ต้องหาดูรับว่าเป็นรองเท้าผู้ต้องหา และบอกว่าผู้ต้องหาไปนอนเฝ้านาแล้วไม่ได้กลับบ้าน ผู้ต้องหามีปืนลูกซอง ขนาด ๑๒ จำนวน ๑ กระบอก ไม่ทราบเก็บไว้ที่ใด ต่อมาพนักงานสอบสวนได้มาสอบปากคำภรรยาผู้ต้องหาอีกได้ความว่าผู้ต้องหาได้หนีออกจากบ้านไปแล้ว อาวุธปืนลูกซองขนาด ๑๒ที่ผู้ต้องหาซื้อเป็นปืนมีทะเบียนแต่ยังไม่ได้โอนทางทะเบียนและเก็บไว้ใต้ถุนบ้าน อไปตรวจสอบพบว่าเป็นอาวุธปืนยาวลูกซองเดี่ยว ขนาด ๑๒ แยกชิ้นส่วนลำกล่องปืนกับตัวปืน จึงได้ยึดอาวุธปืนเป็นของกลางโดยอาวุธปืนดังกล่าวถูกห่อไว้ด้วยพลาสติก ภรรยาผู้ต้องหานำใบอนุญาตเลขที่ ๑๓๒/๒๕๐๙ ทะเบียน กท ๑๑๒๖๘๙ เลขทะเบียนปืน ๒๔KQ เมื่อตรวจดูแล้วไม่พบหมายเลขทะเบียนที่ตัวปืนและที่ด้ามปืนคงพบแต่หมายเลข ๒๔kQ ภรรยาผู้ต้องหาอ้างว่าผู้ต้องหาฝั่งปืนดังกล่าวเมื่อ ๓ถึง ๔ เดือนที่แล้วเครื่องหมายทะเบียนไม่มีเพราะทำด้ามใหม่ ผลการตรวจอาวุธปืนพบเขม่าดินปืนติดอยู่ภายในลำกล้อง แต่ปืนของกลางไม่มีเข็มแทงชนวน จึงใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิตและวัตถุไม่ได้ จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาไม่เคยได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน แม้คดีไม่มีประจักษ์พยาน แต่ก็พบรองเท้าผู้ต้องหาบริเวณที่คนร้ายใช้ซุ่มยิง พบอาวุธปืนลูกซองยาวขนาด ๑๒ ของผู้ต้องหาซุกซ่อนฝังไว้ใต้ถุนบ้านผู้ต้องหา ผู้ต้องหามีสาเหตุโกรธเคืองผู้ตาย หลังเกิดเหตุผู้ต้องหาหลบหนีออกจากบ้านไปเป็นเวลา ๗ ปี จึงสามารถตามจับได้ พยานแวดล้อมรับฟังได้ว่าผู้ต้องหาใช้อาวุธซุ้มยิงผู้ตาย ชี้ขาดให้ฟ้องผู้ต้องหา ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอศาลสั่งริบหมอนรองกระสุนปืนลูกซองและอาวุธปืนลูกซองของกลาง ชี้ขาดความเห็นแย้ง๖๔/๒๕๕๑
ข้อสังเกต ๑.ไม่มีประจักษ์พยานยืนยันการกระทำผิดของผู้ต้องหา
๒.ผู้ต้องหามีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ตายเรื่องรุกล้ำที่ดินที่มีแนวเขตติดต่อกัน เคยพูดขู่จะฆ่าผู้ตายหลายครั้ง และเคยใช้ปืนไล่ยิงบุตรผู้ตาย ที่เกิดเหตุพบรองเท้ายางของผู้ต้องหาตกอยู่บริเวณที่ซุ้มยิง ๑ ข้าง และพบอีกข้างห่างที่เกิดเหตุ ๕ เมตรโดยภรรยาของผู้ต้องหายืนยันเป็นรองเท้าของผู้ต้องหา ตรวจยึดอาวุธปืนลูกซองยาว ขนาด ๑๒ ที่บ้านผู้ต้องหา อันเป็นขนาดเดียวกับที่พบหมอนรองกระสุนปืนขนาด ๑๒ ตกที่เกิดเหตุ โดยอาวุธปืนดังกล่าวมีคาบเขม่าดินปืนติดอยู่ แม้จากการตรวจสอบจะพบว่าไม่มีเข็มแทงชนวนทำให้ไม่สามารถใช้ยิงได้ก็ตาม แต่ก็พบว่ามีการแยกลำกล้องปืนออกจากตัวปืน และด้ามปืนก็ไม่มีหมายเลขทะเบียนปืนที่เจ้าพนักงานประทับไว้โดยภรรยาผู้ต้องหาอ้างว่าไปทำด้ามปืนใหม่ ผู้ต้องหาหลบหนีออกจากบ้านเป็นเวลา ๗ ปี โดยไม่กลับบ้านซึ่งผิดปกติที่คนเราออกจากบ้านไม่กลับมาหาลูกเมีย จนต่อมาผู้ต้องหาถูกจับกุมได้ตามหมายจับ พยานแวดล้อมน่าเชื่อว่าผู้ต้องหาเป็นคนร้ายรายนี้แม้ไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นยืนยันการกระทำผิดของผู้ต้องหาก็ตาม หลักฐานพอฟ้องผู้ต้องหาในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
๓.เมื่อรับฟังว่าอาวุธปืนของกลางที่พบใช้ในการยิงผู้ตาย เมื่อผู้ต้องหาไม่ได้รับอนุญาตให้พาอาวุธปืน จึงเป็นความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยไม่มีเหตุอันควร

ไม่มีความคิดเห็น: