"ร้านค้าที่มีการติดต่อให้ค้าประเวณีคือสถานค้าประเวณี"

ตามพรบ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณีฯ ให้นิยามคำว่า " สถานค้า หมายถึงสถานที่จัดไว้เพื่อการค้าประเวณีหรือยอมให้มีการค้าประเวณี รวมทั้งสถานที่ใช้ในการติดต่อหรือจัดหาบุคคลอื่นเพื่อทำการค้าประเวณี ร้านอาหารที่เกิดเหตุมีหญิงสาวชาวลาวนั่งรอให้บริการลูกค้า ผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้ดูแลกิจการในร้าน ได้สอบถามลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการว่า ต้องการหญิงชาวลาวไปร่วมหลับนอนหรือไม่ ผู้กล่าวหาตอบตกลง และจ่ายเงิน ๓,๐๐๐บาทที่ถ่ายเอกสารและลงประจำวันไว้มอบให้ผู้ต้องหาพร้อมนำหญิงชาวลาว ๓ คนซึ่งขายบริการออกไปจากร้าน คดีมีหลักฐานพอฟ้อง ชี้ขาดให้ฟ้องผู้ต้องหาฐานเป็นเจ้าของกิจการค้าประเวณี ผู้ดูแลหรือผู้จัดการกิจการค้าประเวณีหรือถสถานค้าประเวณีเพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป ชักพาไปซึ่งบุคคลใดๆเพื่อการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นยินยอมก็ตาม ชี้ขาดความเห็นแย้ง ๖๕/๒๕๕๓
ข้อสังเกต ๑.ร้านอาหารที่มีการติดต่อจัดหาบุคคลเพื่อทำการค้าประเวณี เป็นสถานค้าประเวณี
๒.ก่อนจับกุมมีการนำธนบัตรที่ล่อซื้อการค้าประเวณีไปถ่ายเอกสารแล้วนำไปลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เมื่อมีการจ่ายเงินค่าค้าประเวณีแล้วก็จะทำการจับกุมตรวจค้นซึ่งจะพบธนบัตรที่ใช้ในการล่อซื้อ เมื่อนำมาเทียบกับสำเนาธนบัตรที่ลงประจำวันไว้ และเทียบกับสำเนาประจำวันพบว่าธนบัตรใดที่พบที่ตัวผู้ต้องหามีหมายเลขตรงตามประจำวันไว้ก็จะใช้เป็นหลักฐานในการนำมาดำเนินคดี
๓.วิธีการนี้ใช้ในการล่อซื้อยาเสพติดเช่นกัน แต่ต่างกันที่การล่อซื้อการค้าประเวณีเจ้าหน้าที่ตำรวจมักเข้าไปล่อซื้อด้วยตัวเองจึงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นประจักษืพยานยืนยันการกระทำผิดของผู้ต้องหาได้ แต่ในคดียาเสพตืดเจ้าหน้าที่ตำรวจไปซื้อคนขายก็ไม่ขายจึงต้องให้สายลับซึ่งเป็นพวกติดยาเสพติดไปซื้อ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแอบซุ่มดูการล่อซื้อ โดยไม่นำสายลับซึ่งเป็นประจักษ์พยานมาเบิกความอ้างว่าจะเกิดอันตรายแก่สายลับ ผมว่า ทุกคดีพยานที่มาเบิกความเป็นอันตรายแก่พยานทุกคดีครับ อยู่ที่กรมคุ้มครองสิทธิ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูแลให้ความปลอดภัยพยานอย่างไรเท่านั้นมากกว่า การที่ไม่นำสายลับมาเบิกความศาลยกฟ้องมานักต่อนักแล้ว เพราะไม่เชื่อว่าจุดที่ตำรวจซุ่มดูการล่อซื้อจะเห็นการล่อซื้อจริง เช่นซื้อขายยาเสพติดที่หน้าบ้านผู้ต้องหา ถัดจากบ้านผู้ต้องหามีถนนรถวิ่งสวนกันได้ ถัดจากถนนมีไหล่ทางและทางลาดลงไปด้านล่างโดยด้านล่างมีลำคลองอีก เจ้าหน้าที่ตำรวจซุ่ีมอยู่อีกฝั่งของคลอง จุดที่ซุ่มกับจุดล่อซื้อยาเสพติดมีระยะห่างกันมากที่จะมองเห็นได้ชัดเจน ทั้งฝั่งตรงข้ามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจซุ่มดูมีต้นกล้วยบังอยู่ โดยเป็นการมองด้วยสายตาไม่ได้ใช้กล่องส่องทางไกลมอง จึงไม่แน่ว่าจะมองเห็นการล่อซื้อกันจริงไม่ หรือเห็นว่ามีการส่งมอบสิ่งของให้กันแต่สิ่งนั้นจะเป็นยาเสพติดหรือไม่ไม่ทราบ เพราะเข้าตรวจค้นไม่พบธนบัตรของกลางที่ทำการล่อซื้อที่ผู้ต้องหา หรือพบในตัวผู้ต้องหาซึ่งมีอาชีพค้าขายก็อ้างว่าได้ธนบัตรดังกล่าวมาจากการขายสินค้าให้ลูกค้าขาจร การที่ไม่นำสายลับมาเบิกความทำให้หลายคดีศาลต้องยกฟ้องไป
๔. การที่ไม่ได้สอบปากคำสายลับมาทำให้ไม่สามารถทราบได้ว่าสายลับเป็นใคร แม้พนักงานอัยการจะสั่งสอบเพิ่มแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจมักอ้างว่าเพื่อความปลอดภัยสายลับไม่สามารถอ้างเป็นพยานได้ เมื่อไม่ได้ตัวสายลับมาเบิกความบางทีไปเจอฝ่ายจำเลยหัวใสที่มีปลูกต้นกล้วยทีหลัง ขณะเกิดเหตุไม่มีต้นกล้วยแต่หลังเกิดเหตุมีการปลูกต้นกล้วยมาบังการซุ่มดูแล้วถ่ายภาพใช้มาเป็นพยานในศาลโดย ภาพที่ถ่ายก็ไม่ได้ถ่ายในขณะเกิดเหตุ ทั้งใช้เทคนิคในการถ่ายภาพทำให้ดูเหมือนว่าจุดที่ซุ่มดูนั้นอยู่ไกลมาก ทั้งที่เมื่อไปเดินเผชิญสืบในสถานที่เกิดเหตุ จุดซุ้มไม่ได้ห่างจากจุดล่อซื้อเท่าไหร่ เป็นการเอาเปรียบในการดำเนินคดี
๕.ธนบัตรที่ใช้ในการล่อซื้อให้คืนแก่เจ้าของ ในการทำสำนวนส่วนใหญ่พนัีกงานสอบสวนจะส่งแต่สำเนาธนบัตรที่ล่อซื้อเข้ามา แต่ก็มีพนักงานสอบสวนบางคนส่งธนบัตรตัวจริงเข้ามาในสำนวน ซึ่งอาจเกิดการสูญหายได้และเป็นภาระแก่พนักงานอัยการที่จะต้องเก็บธนบัตรนั้นไว้จนกว่าจะมีการเบิกความซึ่งนับแต่ฟ้องถึงเวลาเบิกความอาจมีเวลาหลายเดือนหรือเป็นปีก้ได้ ธนบัตรอาจสูญหายได้ ดังนั้น เอาเพียงส่งสำเนามาก็พอ เวลาที่จะเบิกความในศาลค่อยนำธนบัตรตัวจริงมาประกอบการพิจารณาก็เพียงพอแล้ว
๖.จากประสบการณ์การทำงานผู้ต้องหาหลายรายมักอ้างว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดทั้งเงินที่ล่อซื้อและไม่ล่อซื้อไปด้วยและแถลงต่อศาลขอคืนเงินดังกล่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจะจริงเท็จอย่างไรไม่ทราบเพราะไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรวจค้น จับกุม แต่ก็มีเหตุชวนสงสัยคือ จำเลยรับสารภาพว่าทำผิดจริงตามฟ้อง แต่แถลงศาลขอธนบัตรส่วนของตนที่ไม่ใช่ธนบัตรที่ล่อซื้อคืน เรื่องนี้จริงเท็จอย่างไรไม่ทราบเพราะไไม่ได้อยู่ในขณะตรวจค้นจับกุม ต้องเป็นเรื่องที่ผู้ต้องหาต้องไปใช้สิทธิ์ทางศาลเอาเองหากยากได้ธนบัตรคืน แต่ทางปฏิบัติจำเลยก็ไม่เคยดำเนินการทางศาลแต่อย่างไรอย่าว่าแต่การดำเนินคดีแพ่งเลยครับ คดีอาญายังไม่มีเงินมาสู้คดียังต้องแถลงศาลขอแรงทนายความมาว่าความเลยครับ