เจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายค้นไปตรวจที่อู้ซ่อมรถผู้ต้องหา พบชิ้นส่วนอุปกรณ์และอะไหล่รถจักรยานยนต์หลายคันรวม ๑๖ รายการ ผู้ต้องหาอ้างว่ามีคนนำมาให้ซ่อม จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลางพร้อมสืบหาเจ้าของและให้ผู้เสียหายที่รถถูกลักไปมาตรวจดู ผู้เสียหายยืนยันว่าชิ้นส่วนอุปกรณ์จำนวน ๖ รายการ เป็นชิ้นส่วนอุปกรณ์รถจักรยานยนต์ของตนที่แจ้งความรถหาย การที่ผู้ต้องหามีอาชีพซ่อมรถจักรยานยนต์ได้รับรถของผู้เสียหายที่ถูกลักไปมาซ่อม โดยอ้างว่าลูกน้องของตนเป็นคนนำมาให้ซ่อมบอกว่าเป็นรถของเพือนที่รู้จัก โดยในขณะที่รับรถมาซ่อมรถดังกล่าวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนและไม่มีหลักฐานทางทะเบียนรถ และมีการซ่อมหลายรายการ แต่ผู้ต้องหายอมรับรถไว้ซ่อมโดยไม่รู้จัก ไม่มีการตกลงราคมซ่อมกับผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของรถ เป็นเรื่องผิดวิสัยที่คนทั่วไปกระทำกัน ทั้งขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายค้นไปตรวจค้นพบชิ้นส่วนอุปกรณ์รถถูกวางกระจัดกระจายอยู่คนละแห่งในลักษณะปกปิดซ่อนเร็น เป็นพิรถุธ พฤติการณ์ฟังได้ว่า ผู้เสียหายรับรถของผู้เสียหายโดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการลักทรัพย ชี้ขาดให้ฟ้องผู้ต้องหาฐานรับของโจร ชี้ขาดความเห็นแย้ง๖๑๑/๒๕๕๒
ข้อสังเกต ๑.ผู้ต้องหามีอาชีพรับจ้างซ่อมรถจักรยานยนต์ ย่อมต้องมีความระมัดระวังในการรับรถที่จะมาซ่อม การที่อ้างว่าลูกน้องนำรถมาให้ซ่อมโดยไม่พบเจ้าของรถ ไม่มีการตกลงว่าจะซ่อมที่ไหนบ้าง ราคาค่าซ่อมเท่าไหร่ กำหนดแล้วเสร็จเมื่อไหร่ โดยรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ไม่มีหลักฐานใดๆเกี่ยวกับตัวรถ เป็นการไม่ใช้ความระมัดระวังในวิชาชีพของตน ทั้งในขณะตรวจค้นพบว่ามีการแยกชิ้นส่วนของรถออกหลายรายการ นำไปเก็บไว้คนละแห่งแตกต่างกัน มีการเก็บไว้ในแบบซุกซ่อนไม่ให้คนทั่วไปเห็น พฤติการณืดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าผู้ต้องหา "น่าที่จะรู้ "หรือ "ควรรู้"หรือ "รู้ "ว่ารถคันดังกล่าวได้มาจากกากรกระทำความผิด การที่ผู้ต้องหายังรับเอารถคันดังกล่าวไว้และแยกชิ้นส่วนรถออกซุกซ่อนย่อมเป็นการช่วยซ่อนเร็น ช่วยจำหน่าย หรือรับไว้โดยประการใดๆซึ่งทรัพย์ที่ได้มาจากกากรกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ การกระทำของผู้ต้องหาจึงเป็นความผิดฐานรับของโจร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น