จำเลยพูดกับน้องผู้เสียหายว่า “ พี่สาวเอ็งมีผัวหรือยัง ควยกูนี้ใหญ่ พี่สาวมึงคงชอบ ขอเย็ดสักทีสองทีได้ไหม?” การที่จะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทต้องเป็นการใส่ความผู้อื่นโดยการ “ ยืนยัน” ข้อเท็จจริงที่ใส่ความนั้นต่อบุคคลที่สาม มิใช่เป็นเพียงการคาดคะเนหรือการแสดงความคิดเห็นและการใส่ความ นั้นน่าจะทำให้ผู้อื่นที่ถูกใส่ความเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชัง คำพูดที่ว่า “ ควยกูนี้ใหญ่ พี่สาวมึงคงชอบ” เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นหรือการคาดคะเนของจำเลยเท่านั้น ไม่ได้ยืนยันข้อเท็จจริงอันจะทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชังแต่ประการใด ส่วนถ้อยคำที่ว่า “ ขอเย็ดสักทีสองทีได้ไหม” ก็ไม่ใช่ถ้อยคำที่ทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชังแต่ประการใดไม่ คำพิพากษาฏีกา ๑๓๙๙/๒๕๑๘
ข้อสังเกต๑. การที่จะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้นต้องเป็นการใส่ความผู้อื่นโดยการ “ ยืนยัน” ข้อเท็จจริงที่ใส่ความนั้นต่อบุคคลที่สาม มิใช่เป็นเพียงการ “คาดคะเนหรือการแสดงความคิดเห็น” และการใส่ความ นั้นน่าจะทำให้ผู้อื่นที่ถูกใส่ความเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชัง
๒.คำว่า “ควยกูนี้ใหญ่” เป็นเพียงการบอกให้ทราบว่าอวัยวะเพศจำเลยมีขนาดใหญ่ ส่วนถ้อยคำที่ว่า “ พี่สาวมึงคงชอบ” ก็ไม่ใช่เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงว่าผู้เสียหายชอบผู้ชายที่มีอวัยวะเพศใหญ่ ผู้เสียหายจะชอบหรือไม่ชอบเป็นการคาดคะเนของจำเลยเองว่าขนาดอวัยวะเพศของตัวเองมีขนาดใหญ่ผู้หญิงทั่วไปรวมทั้งผู้เสียหายคงชอบซึ่งอาจจะถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง ผู้หญิงบางคนอาจชอบหรืออาจไม่ชอบก็ได้รวมทั้งผู้เสียหายด้วยอาจชอบหรือไม่ชอบก็ได้ ถ้อยคำดังกล่าว ไม่เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงว่าผู้เสียหายชอบ เป็นเพียงการคาดคะเนเอาว่าผู้เสียหายคงชอบเพราะอวัยวะเพศจำเลยมีขนาดใหญ่ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วผู้เสียหายอาจจะชอบหรืออาจไม่ชอบก็ได้ ถ้อยคำดังกล่าวไม่ใช่การยืนยันข้อเท็จจริงว่าผู้เสียหายชอบผุ้ชายที่มีอวัยวะเพศขนาดใหญ่แต่อย่างใดไม่ จึงไม่ทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชังจากผู้มาพบเห็นหรือได้ยินข้อความดังกล่าว ส่วนคำว่า “ ขอเย็ดสักทีสองที” ก็ไม่ใช่ถ้อยคำที่จะทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชังแต่อย่างใดไม่ ในทางตรงกันข้ามกลับทำให้ผู้ที่ได้ยินข้อความดังกล่าวดูหมิ่นและเกลียดชังจำเลยมากกว่าที่ใช้คำพูดไม่สุภาพ ไม่เหมาะสมกับผู้หญิงอื่นซึ่งไม่ใช่ภรรยาของตน แม้จะเป็นภรรยาของตนก็ไม่สมควรที่จะใช้คำพูดแบบนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจิตใจอันต่ำช้าของจำเลยมากกว่าที่คำพูดแต่ละคำที่ออกมาพูดถึงเรื่องทางเพศแสดงให้เห็นถึงความหมกมุ่นในทางเพศของจำเลยและการไม่ให้เกียรติ์คนอื่นโดยเฉพาะผู้หญิงที่จำเลยเองก็ยังไม่รู้จักดี หากจำเลยรู้จักผู้เสียหายแล้วคงไม่ต้องมาสอบถามว่า “ พี่สาวเอ็งมีผัวหรือยัง” ซึ่งแสดงให้เห็นว่า จำเลยไม่รู้จักหรือสนิทสนมกับผู้เสียหายแต่อย่างใด จึงเป็นการไม่ให้เกียรติ์แก่ผู้หญิงที่ตนเองก็ไม่ได้รู้จักสนิทสนม การที่จะมาขอร่วมเพศกับผู้หญิงไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะแต่งงานหรือยังไม่แต่งงานก็ตามด้วยการพูดฝากบอกน้องชายของหญิงดังกล่าวว่าขอร่วมประเวณีด้วยเป็นการไม่สุภาพไม่ให้เกียรติ์ สังคมไทยยังไม่ยอมรับในการใช้คำพูดแบบนี้ แม้จะไม่เป็นความผิดตามกฎหมายแต่จำเลยก็ได้รับกรรมจากคำพูดในทางโลกโดยถูกดำเนินคดีต้องเสียเงินจ้างทนายความมาสู้คดี ต้องหาเงินมาประกันตัว ต้องเสียเวลามาขึ้นศาล กว่าศาลฏีกาจะมีคำพิพากษาลงมา จำเลยก็ย่อมเกิดความกระหวั่นในใจว่าจะถูกศาลลงโทษจำคุกหรือไม่อย่างไรก็ถือว่าความกระวนกระวายใจและความเดือดร้อนที่ได้รับอันเป็นผลกรรมมาจากคำพูดของจำเลย ส่วนกรรมในทางพุทธศาสนาที่จะได้รับในการผิดศีลข้อ ๔ จำเลยจะได้รับอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
๓.หากจำเลยพูดว่า “ควยกูนี้ใหญ่ พี่สาวมึงชอบ” หากพูดยืนยันข้อเท็จจริงแบบนี้แสดงว่า จำเลยกล่าวหาว่าผู้เสียหายมีความต้องการทางเพศมากชอบผู้ชายที่มีอวัยวะเพศมีขนาดใหญ่ และการที่จำเลยทราบได้ว่าผู้เสียหายชอบผู้ชายที่มีอวัยวะเพศใหญ่เท่ากับกล่าวอ้างว่าเคยได้เสียกับผู้เสียหายหรือมีอะไรทางเพศกับผู้เสียหายจึงรู้ว่าผู้เสียหายชอบอวัยวะเพศของจำเลยที่มีขนาดใหญ่ ดังนี้ก็เป็นการใส่ความผู้เสียหายต่อบุคคลที่สามอันจะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทได้แล้ว คำพูดที่ผิดเพี้ยนไปเพียงคำสองคำก็สามารถทำให้การวินิจฉัยเปลี่ยนแปลงไปได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น