นาง ส. อายุ ๑๐๒ ปีเศษ ศาลมีคำสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ ได้มาแจ้งความร้องทุกข์จึงไม่อาจให้การต่อพนักงานสอบสวนได้ พนักงานสอบสวนไม่สามารถส่งตัวอย่างลายมือชื่อนาง ส. ไปตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบลายมือชื่อในคำขอเปิดบัญชีธนาคาร ก. ทั้ง ๗ บัญชีได้ เนื่องจากนาง ส.ไม่อยู่ในสภาพจะเขียนลายมือชื่อของตนได้ ผู้กล่าวหาซึ่งเป็นผู้อนุบาลร่วมกับผู้ต้องหาและนาย ช. ยืนยันว่าลายมือชื่อในการขอเปิดบัญชีไม่ใช่ลายมือชื่อนาง ส.เนื่องจากนาง ส.ไม่ได้รับการศึกษา ลักษณะลายมือชื่อไม่ค่อยเป็นตัวหนังสือที่อ่านได้ชัดเจนเป็นธรรมชาติ ่ส่วนลายมือที่ใช้ในการเปิดบัญชีเขียนชื่ออ่านได้ชัดเจน ผู้ต้องหาให้การว่านาง ส. เป็นผู้สั่งให้ผู้ต้องหาจับมือนาง ส.เขียนในคำขอเปิดบัญชีทั้งเจ็ด โดยผู้ต้องหาเป็นผู้ดูแลกิจการโรงเรียนที่นาง ส. เป็นผู้จัดการโรงเรียน ซึ่งผู้ต้องหาไม่เคยสร้างความเสียหายในการทำงานหรือบริหารเกี่ยวกับทรัพย์สินของนาง ส. ต่อมานาง ส.เริ่มมีความจำหลงลืมจำได้เพียงผู้ต้องหาและนาง ก. คนรับใช้ นาง ส.มีสุขภาพดีมือไม่แข็งแรงเวลาเซ็นเอกสารต้องให้ผู้ต้องหาจับมือเขียนให้ นาง ก.ยืนยันว่าเคยเห็นผู้ต้องหาจับมือนาง เซ็นเอกสารธนาคารบ่อยและเคยเห็นนาให้ผู้ต้องหาจับมือเซ็นในสัญญาเช่า นายแพทย์ ว.ยืนยันว่าสมองนาง ส. การทำงานบางหน้าที่ของสมองลดลง ยังคงมีสติรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น ยังไม่ได้มีอาการสมองเสื่อมถึงขนาดจำอะไรไม่ได้แต่อย่างใด การลงลายมือชื่อก็เคยให้ผู้ต้องหาจับมือเพื่อลงลายมือชื่อ ทั้งธนาคาร ก.แจ้งว่ามีการปิดบัญชีทั้งเจ็ดแล้ว ทั้งตนเคยสอบถามนาง ส.เกี่ยวการเปิดบัญชีทั้งเจ็ดและเงื่อนไขการถอนเงิน นาง ส. รับทราบลายละเอียดการเปิดบัญชีและเงื่อนไขการถอนเงินดังกล่าว น่าเชื่อว่าในขณะเปิดบัญชีนาง ส. มีสติสัมปัญชัญญะสามารถรับรู้ในการกระทำได้ ทราบลายละเอียดและเงื่อนไขการเปิดบัญชี แต่เนื่องจากอายุมากจึงไม่สามารถลงลายมือชื่อได้จึงต้องขอให้ผู้ต้องหาจับมือในการเปิดบัญชีโดยความยินยอมและโดยสมัครใจ ทั้งการเปิดบัญชีทั้งเจ็ดก็ไม่เกิดความเสียหาย แต่กลับทำให้ทรัพย์สินงอกเงย หลักฐานไม่พอฟังว่าผู้ต้องหาปลอมลายมือชื่อ ส.ในการเปิดบัญชี ชี้ขาดไม่ฟ้องผู้ต้องหาข้อหาปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม ชี้ขาดความเห็นแย้ง ๓๔๔/๒๕๕๑
ข้อสังเกต ๑. ผู้ต้องหาให้การเองว่าตนจับมือนาง ส.เซ็นชื่อ แสดงถึงความบริสุทธิ์๋ใจของผู้ต้องหา หากผู้ต้องหาไม่ยอมรับก็ยากที่จะรู้ว่าใครเป็นคนเขียนเพราะพนักงานสอบสวนไม่สามารถให้นาง ส. เซ็นชื่อเพื่อไปเปรียบเทียบลายมือชื่อนาง ส. ที่เปิดบัญชีไว้ได้
๒.ทางปฏิบัติ นาง ส.ให้ผู้ต้องหาจับมือเซ็นชื่อในสัญญาเช่าและเอกสารธนาคารหลายครั้ง เพราะมือไม่แข็งแรงไม่สามารถเซ็นเอกสารได้ และการเซ็นทุกครั้งก็ไม่มีปัญหาและไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่นาง ส.
๓.ผู้จัดการธนาคารยืนยันว่าเคยสอบถามนาง ส.แล้วนาง ส.ทราบลายละเอียดและเงื่อนไขการเปิดบัญชีและการถอนเงิน
๔.ขณะเปิดบัญชีมีดอกผลงอกเงยขึ้นมา และในขณะนี้ได้ปิดบัญชีทั้งเจ็ดแล้ว และผู้ต้องหาเคยบริหารงานโรงเรียนของนาง ส. ก็ไม่เคยก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ
๕.นายแพทย์ ว.ยืนยันว่า นาง ส.ยังมีสติรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่มีอาการสมองเสื่อมถึงขนาดจำอะไรไม่ได้
๖.แม้การจับมือนาง ส. แล้วลงลายมือชื่อเป็นชื่อของนาง ส. ซึ่งไม่ใช่ลายมือชื่ออันแท้จริงของนาง ส. อันถือเป็นการลงลายมือชื่อปลอมก็ตามแต่ก็ไม่ได้เกิดความเสียหายแก่ นาง ส.หรือบุคคลอื่น จึงไม่ครบองค์ประกอบความผิดฐานปลอมเอกสาร เมื่อไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสาไม่อาจเป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอมได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น