ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2559

" นำหลักฐานของผู้อื่นมาแสดงเพื่อให้ธนาคารออกบัตรเครดิตและบัตรถอนเงิน"

ผู้ต้องหาโทรศัพท์ชวนให้นาย ท.สมัครเป็นสมาชิกบัครเครดิตและบัตรกดเงินธนาคาร ท.และธนาคาร ฮ. นาย ท.จึงส่งเอกสารใบสมัครกลายละเอียดและลงลายมือชื่อพร้อมเอกสารต่างๆในการขอเป็นสมาชิกบัตรเครดิตวีซ่าและบัตรเบิกถอนเงินสด แต่ธนาคารทั้งสองแห่งไม่อนุมัติตามคำขอ ผู้ต้องหาใช้หลักฐานของนาย ท.สมัครเป็นสมาชิกธนาคาร น. ธนาคาร น. หลงเชื่อได้ออกบัตรเครดิตและบัตรกดเงินให้ผู้ต้องหาที่แอบอ้างว่าเป็นนาย ท. การที่ผู้ต้องหานำสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน รายการเคลื่อนไหวทางบัญชี สำเนาใบจ่ายเงินเดือนของนาย ท.โดยกล่าวข้อความอันเป็นเท็จในเอกสารคำขอสมัครเป็นสมาชิกผู้ถือบัตรเครดิตวีซ่าและคำขอผู้ถือบัตรกดเงินสด โดยแสดงตนว่าคือนาย ท. มีความประสงค์ขอสมัครบัตรดังกล่าว พร้อมลงลายมือชื่อปลอมของนาย ท. แล้วยื่นต่อธนาคาร น. ผู้เสียหาย เป็นเหตุให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าผู้ต้องหาคือนาย ท.และได้ออกบัตรเครดิตวีซ่าและบัตรกดเงินสดในชื่อนาย ท. มอบให้ผู้ต้องหาไป เป็นการปลอกลวงผู้เสียหายด้วยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ชี้ขาดให้ฟ้องผู้ต้องหาฐานฉ้อโกงดดยการแสดงตนเป็นคนอื่น ชี้ขาดความเห็นแย้ง๑๔/๒๕๕๒
ข้อสังเกต ๑. ผู้ต้องหาหลอกลวงผู้เสียหายด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จด้วยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่นพร้อมใช้เอกสารของบุคคลอื่นมาสมัครบัตรเครดิตและบัตรถอนเงินอันเป็นความเท็จจนธนาคารผู้เสียหายชื่อได้ออกบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดให้ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อธนาคาร น. , นาย ท.และบุคคลอื่นที่ขายสินค้าให้ผู้ต้องหาโดยผู้ต้องหาชำระค่าสินค้าโดยบัตรเครดิต เป็นความผิดฐานฉ้อโกงด้วยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และหากนำไปใช้ซื้อสินค้าผ่านทางบัตรเครดิตก็เป็นความผิดอีกกรรมฐานฉ้อโกงด้วยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น
๒.การที่ผู้ต้องหาลงลายมือชื่อปลอมว่า ตนคือนาย ท. ย่อมเป็นการปลอมเอกสาร ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อ นาย ท. ,ธนาคาร น.และพ่อค้าที่รับชำระหนี้ผ่านบัตรเคดิต และเมื่อนำมายื่นต่อธนาคารย่อมเป็นการใช้เอกสารปลอม
๓.การกระทำดังกล่าวเมื่อเป็นการกระทำต่อสำเนาบัตรประชาชนจึงไม่เป็นความผิดฐานนำบัตรประชาชนผู้อื่นมาใช้แสดงตนว่าเป็นเจ้าของบัตรประชาชน ตาม พรบ.บัตรประชาชนฯ มาตรา ๑๕ ตีความโดยเคร่งครัดในคดีอาญา สำเนาบัตรประชาชนไม่ใช่บัตรประชาชน
๔ .การนำสำเนาทะเบียนบ้านที่มีข้อมูลทางทะเบียนราษฏร์ของบุคคลอื่น แม้จะเป็นสำเนาทะเบียนบ้าน ไม่ใช่ทะเบียนบ้านตัวจริงก็ตาม แต่ก็สามารถรู้ถึงข้อมูลต่างๆในทะเบียนบ้านได้ว่าเป็นใคร บิดามารดาชื่ออะไร มีเลขประจำตัวบุคคลอย่างไร จึงเป็นการนำข้อมูลทางทะเบียนราษฏร์ไปใช้เป็นหลักฐานที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของข้อมูลได้ ตามพรบ.ทะเบียนราษฏร์ฯ มาตรา ๑๗,๔๙

ไม่มีความคิดเห็น: