“คืนไม่ทัน”

จำเลยเป็นผู้บังคับหมู่ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน ๔๒ จังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนเกิดเหตุจำเลยไปฝึกทบทวนประจำปี ได้เบิกอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลางจำนวน ๑๘๐ นัด เพื่อใช้ฝึกทบทวน เมื่อฝึกทบทวนเสร็จแล้วจำเลยนำอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่เหลือ ๒๕ นัดส่งคืนคลังอาวุธ จำเลยได้เบิกอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวน ๒๕ นัด เพื่อไปทำความสะอาด แต่ทำความสะอาดไม่ทัน จึงนำอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวกลับภูมิลำเนาที่ตำบลขอนหาด นครศรีธรรมราช เนื่องจากลาผักผ่อน ๑๐ วัน ในช่วงที่จำเลยทำความสะอาดอาวุธปืนในหน่วยที่ตั้งที่จำเลยปฏิบัติราชการอยู่ ถือเป็นการปฏิบัติราชการ แต่การที่นำอาวุธปืนและกระสุนปืนออกนอกหน่วยที่จำเลยประจำการโดยไม่ได้นำไปใช้ในทางราชการ ทั้งที่จำเลยทราบดีอยู่แล้วว่าตนได้ลาผักผ่อน ๑๐ วัน การที่นำอาวุธปืนติดตัวไปหลายวัน โดยต้องเดินทางเป็นระยะไกลไปต่างจังหวัด ย่อมแสดงให้เห็นเจตนาจำเลยในการยึดถืออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวในทางก่อประโยชน์แก่ตนตลอดระยะเวลาดังกล่าว ไม่ใช้มีไว้เพื่อใช้ในทางราชการเนื่องจากเป็นช่วงเวลาผักผ่อนของจำเลย เป็นความผิดตามกฎหมายไม่ได้รับข้อยกเว้นตามกฎหมาย คำพิพากษฏีกา ๒๓๗๔/๒๕๔๓
ข้อสังเกต๑.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนโดยสภาพแล้วย่อมเป็นอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน แม้กระสุนปืนนั้นจะสามารถยิงได้หรือไม่ มีอนุภาพเพียงใดหรือไม่ ไม่ใช่ข้อที่จะพิจารณาว่าเป็นอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนตามกฎหมายหรือไม่ เมื่อจำเลยมีและพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะ ย่อมมีความผิดตามกฎหมาย อ้างคำพิพากษาฏีกา ๓๘๙๔/๒๕๔๖
๒.แม้อาวุธปืนใช้ยิงไม่ได้ก็เป็นความผิดตามกฎหมาย (คำพิพากษาฏีกา ๔๓๖๗/๒๕๔๔)
๓แม้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจะมีขนาดแตกต่างกัน แม้จะสามารถใช้ร่วมกันได้หรือไม่ไม่ใช่ข้อสำคัญ ไม่ทำให้การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดตามฟ้องไม่ (คำพิพากษาฏีกา ๙๑๐๙/๒๕๔๙
๔.ปืนที่มีสภาพเก่า ลำกล้องมีสนิมขึ้น ไม่สามารถใช้ยิงได้ บางกรบอกไม่มีด้ามปืน ก็เป็นความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ (คำพิพากษาฏีกา ๑๗๒๙/๒๕๓๖)
๕.ลูกระเบิดซ้อมขว้าง แม้ไม่มีอนุภาพทำลายล้าง ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพ์สินก็เป็นเครื่องกระสุนปืน คำพิพากษาฏีกา ๒๘๐๑/๒๕๔๓
๖.พลุสะดุดส่องแสงแบบเอ็ม ๔๙ เอ ๑ ไม่มีลักษณะคล้ายคลึงเครื่องกระสุนปืน จึงไม่ใช่เครื่องกระสุนปืน คำพิพากษาฏีกา ๑๒๕๖/๒๕๓๙
๗..แม้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหากนำอาวุธปืนทางราชการมาครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยไม่ได้ใช้ในทางราชการก็เป็นความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยไม่มีเหตุอันควร
๘..ในสมัยที่ผมรับราชการที่สนง.อัยการแห่งหนึ่ง มีสำนวนที่พนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้องส่งเข้ามาหนึ่งเรื่อง เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัด ร. ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัด ก. จับกุมได้พร้อมอาวุธปืนของทางราชการขณะกำลังขับรถเข้ามาในจังหวัด ก. โดยเหตุผลในการสั่งไม่ฟ้องของพนักงานสอบสวนให้เหตุผลว่าพาอาวุธปืนราชการมาตามจับคนร้ายคดีอุจฉกรรจ์ถือเป็นกรณีโดยมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามพฤติการณ์ แต่เมื่อพิจารณาในสำนวนการสอบสวนพบว่า ข้ออ้างที่ว่านำอาวุธปืนทางราชการมาเพื่อติดตามคนร้ายดูไม่สมเหตุสมผล เพราะมีการเบิกอาวุธทางราชการมาตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ในขณะที่คนร้ายฆ่าคนตายเมื่อวันที่ ๘ มกราคม ทราบได้อย่างไรว่าจะมีการฆ่ากันตายในอนาคตจึงได้เบิกอาวุธปืนออกมาเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่มาก่อเหตุฆ่ากันในอนาคต(การมาทำหลักฐานการเบิกอาวุธปืน เข้าใจว่าน่าจะเป็นการทำหลักฐานย้อนหลังมีพิรุธน่าสงสัย) ทั้งการที่นำอาวุธสงคราม(เอ็มสิบหก)ซึ่งเป็นอาวุธสงครามออกนอกเขตจังหวัดโดยไม่ได้ขออนุญาตจากผู้บังคับบัญชา และผู้บังคับบัญชาไม่ได้อนุญาตก่อนเป็นการผิดระเบียบที่นำอาวุธทางราชการออกนอกเขตพื้นที่จังหวัดของตนเอง ข้ออ้างว่าตามจับคนร้ายก็ไม่สมเหตุสมผลเพราะการตามจับคนร้ายแต่พาภรรยามาด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามนาย พาภรรยามาด้วยทั้งสามคน การมาตามจับคนร้ายไม่มีความจำเป็นต้องนำภรรยามาด้วย ข้ออ้างไม่สมเหตุสมผล ตราบใดจับกุมและสอบสวนยังอยู่ในหน่วยงานเดียวกันก็จะมีปัญหาแบบนี้ สำนวนส่งถึงอัยการ อัยการสั่งฟ้องในข้อหามีและพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยไม่มีเหตุอันควร ผมย้ายมาก่อนเลยไม่รู้ผลคดีเป็นอย่างไร
๙.ความผิดตาม ปอ มาตรา ๓๗๑ เป็นยาดำที่แทรกในความผิดตามพรบ.อาวุธปืน หากเป็นข้อสอบ หากตอบตามพรบ.อาวุธปืนอย่างเดียว ไม่ได้ตอบ ปอ มาตรา ๓๗๑ ถือว่า ตอบไม่ครบคะแนนจะขาดหายไป แม้ตาม ปอ มาตรา ๓๗๑ เป็นความผิดลหุโทษ การกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทต้องลงตามบทหนักตามพรบ.อาวุธปืนก็ตาม แต่ข้อสอบไม่ได้ถามว่าคำพิพากษาฏีกาวินิจฉัยว่าอย่างไร เมื่อข้อสอบถามว่าผิดอะไร แม้เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทต้องตอบทั้งบทหนักและบทเบา คือต้องตอบว่าเป็นความผิดตามพรบ.อาวุธปืน และตาม ปอ มาตรา ๓๗๑ แล้วกำกับว่า เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทลงโทษตามพรบ.อาวุธปืนที่เป็นบทหนักกว่า ปอ มาตรา ๓๗๑
๑๐.ตามคำพิพากษาฏีกาข้างต้น การที่เบิกอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปฝึกทบทวนแล้วเหลือกระสุน ๒๕ นัด ได้นำมาคืน แล้วมายืมใหม่เพื่อนำไปทำความสะอาด ข้อสังเกตคือ เมื่อนำไปทำความสะอาดเหตุใดต้องยืมกระสุนปืน ๒๕ นัดไปด้วย กระสุนปืน ๒๕ นัดเกี่ยวข้องในการทำความสะอาดอาวุธปืนอย่างไร อาวุธปืนเพียงกระบอกเดียวต้องใช้เวลาในการทำความสะอาดนานมากจนถึงกับไม่สามารถนำมาคืนคลังได้อย่างนั้นหรือ และมีความจำเป็นอย่างไรต้องนำอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปต่างจังหวัดด้วย ทั้งที่รู้อยู่ว่าได้ลางานนานถึง ๑๐ วัน การนำอาวุธปืนนอกนอกเขตพื้นที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาและออกนอกเขตไปจังหวัดอื่นย่อมรู้ดีว่าอาวุธปืนอาจตกหล่นสูญหายได้ และผิดระเบียบแบบแผนทางราชการ การนำไปฝากไว้กับผู้บังคับบัญชาหรือเก็บไว้ที่บ้านโดยไม่นำติดตัวไปด้วยน่าจะปลอดภัยกว่า การที่นำติดตัวไปด้วยพร้อมกระสุนปืน ส่อแสดงให้เห็นว่ามีเจตนาครอบครองปืนเพื่อตนไม่ได้ใช้ในทางราชการ จึงมีความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยไม่มีเหตุอันควร ไม่ได้รับการยกเว้นตามพรบ.อาวุธปืนฯ มาตรา ๕ ที่เป็นอาวุธปืนทหารตำรวจที่มีหรือใช้ในทางราชการเพื่อป้องกันประเทศหรือรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน