ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2559

"จัดคอนเสิร์ตไม่นำนักร้องดังมาแสดง"

ผู้ต้องหาชวนผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนจัดคอนเสริต์ พลังไทย พลังใจ เพื่อวัดพระบาทน้ำพุ โดยจะนำ บ่าววีและ บิวกัลยาณี มาแสดง โดยตกลงว่ามีกำไรให้แบ่งกัน ผู้เสียหายคิดว่าคงไม่ขาดทุนจึงร่วมลงทุน ๒๐๐,๐๐๐ บาท มีการทำหลักฐานการร่วมลงทุนไว้โดยเอกสารดังกล่าวระบุว่า ผู้ต้องหาต้องนำเงินดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานและทำรายงานการใช้จ่ายเงินให้ผู้เสียหายทราบทุกครั้งที่รับเงินไปดำเนินการ แต่ปรากฏว่าขาดทุน เพราะไม่มีการนำนักร้องดังมาแสดงเพราะเงินทุนไม่พอ ผู้เสียหายบอกว่าหากทราบแต่แรกว่าไม่นำนักร้องดังมาแสดงก็จะไม่ร่วมลงทุน จากการตรวจสอบเอกสารค่าใช้จ่ายไม่ตรงตามความเป็นจริง เช่น ค่าเช่าสถานที่ไม่ต้องเสีย เงินค่าพิมพ์บัตรเข้าชม ๖,๐๐๐ บาท แต่ลงรายการเป็น ๑๕,๐๐๐ บาท เห็นได้ว่า ผู้ต้องหาได้จัดคอนเสริตตามที่ตกลงกับผู้เสียหาย แต่ขาดทุนเนื่องจากไม่ได้นำนักร้องดังมาแสดงตามที่ตกลง เป็นเพียงผิดข้อตกลงในการร่วมลงทุนในทางแพ่งเท่านั้น ไม่พอรับฟังว่า มีเจตนาฉ้อโกง ทั้งไม่ใช่เป็นการมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของผู้เสียหายแล้วผู้ต้องหากระทำผิดหน้าที่ของตนโดยทุุจริต ชี้ขาดไม่ฟ้องผู้ต้องหาฐานฉ้อโกง ชี้ขาดความเห็นแย้ง ๓๓๒/๒๕๕๑
ข้อสังเกต ๑. ผิดข้อตกลงในทางแพ่งไม่ใช่ฉ้อโกงทางอาญา
๒.การที่ไม่สามารถนำน้องร้องดังมาแสดงเป็นเพราะสู้ค่าตัวไม่ไหว หาได้เกิดจากมีเจตนาแต่แรกที่จะไม่นำนักร้องดังมาแสดง
๓.เป็นการลงทุนแล้วขาดทุน ไม่ใช่มีเจตนาทุจริต นำเงินผู้เสียหายไปแสวงหาผลประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฏหมาย
๔.การร่วมลงทุนดังกล่าว ไม่ใช่กรณีมอบให้จัดการทรัพย์สินผู้เสียหาย แล้วผู้ต้องหากระทำผิดหน้าที่ของตนโดยทุจริตอันเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ตาม ป.อ. มาตรา ๓๕๓ แต่เป็นเรื่องร่วมลงทุนแล้วขาดทุนเพราะไม่มีเงินพอที่จะจ้างนักร้องดังมาแสดง

ไม่มีความคิดเห็น: