การทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีการตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงานเก็บเงินทุกคน โดยให้พนักงานเก็บเงินกดแป้นพิมพ์เครื่องคอมพิวเตอร์ตามประเภทรถที่ผ่านและประเภทของการจ่ายเงิน หากไม่กดจะไม่มีเงินปรากฏในเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่เครื่องตรวจจับพื้นที่ถนนจะเป็นตัวฟ้องว่ามีรถผ่านโดยมีเสียงสัญญาณดังขึ้น และพนักงานควบคุมจะทราบเพราะเครื่องทำงานไม่ครบวงจร การที่พนักงานเก็บเงินรับเงินจากรถที่วิ่งผ่านทางด่วนแล้วไม่กดแป้นพิมพ์เครื่องคอมพิวเตอร์หรือกดแป้นพิมพ์แล้ว เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ทำงานตามที่จำเลยกล่าวอ้าง เครื่องตรวจจับที่พื้นถนนจะตรวจนับจำนวนรถที่วิ่งผ่านเอง เมื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาเปรียบเทียบกันแล้วปรากฏว่าจำเลยส่งเงินขาด ๘ ครั้ง แม้ไม่มีพยานบุคคลยืนยันว่า จำเลยเบียดบังเงินค่าผ่านทาง แต่เมื่อจำเลยซึ่งเป็น “ เจ้าพนักงาน” มีหน้าที่รักษาเงิน แม้เป็นระยะเวลาอันสั้น รวมทั้งเป็นผู้รับเงินและรวบรวมนำส่งต่อไป เป็นผู้จัดการทรัพย์ แล้ว จึงเป็นกรณีเจ้าพนักงานฏีครั้ง แม้ไม่มีพยานบุคคลยืนยันว่า จำเลยเบียดบังเงินค่าผ่านทาง แต่เมื่อจำเลยซึ่งเป็น “ เจ้าพนักงาน” มีหน้าที่รักษาเงิน แม้เป็นระยะเวลาอันสั้น รวมทั้งเป็นผู้รับเงินและรวบรวมนำส่งต่อไป เป็นผู้จัดการทรัพย์ แล้ว จึงเป็นกรณีเจ้าพนักงานเบียดบังยักยอกทรัพย์เป็นของตนโดยทุจริตแล้วคำพิพากษาฏีกา ๑๕๓/๒๕๔๕
ข้อสังเกต ๑. จำเลยเป็นพนักงานเก็บเงินของการทางพิเศษมีฐานะเป็น “ เจ้าพนักงาน” ตามกฎหมายการทางพิเศษแห่งประเทศไทย มีหน้าที่เก็บเงินรถที่วิ่งผ่านทางด่วนและรวบรวมเงินส่งการทางพิเศษแห่งประเทศไทย จำเลย จึงเป็น “ เจ้าพนักงานที่มีหน้าที่จัดการหรือรักษาทรัพย์” แล้ว
๒.จำเลยเป็นพนักงานเก็บเงินรู้ว่าหากตนไม่กดแป้นพิมพ์เครื่องคอมพิวเตอร์ตามประเภทรถที่วิ่งผ่านและประเภทการจ่ายเงินแล้ว จะไม่มีเงินปรากฏในเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งตนจะเอาเงินค่าผ่านทางนี้ไปเป็นประโยชน์ส่วนตน แต่หารู้ไม่ว่าการทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีการตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงานเก็บเงินทุกคน โดยให้พนักงานเก็บเงินกดแป้นพิมพ์เครื่องคอมพิวเตอร์ตามประเภทรถที่ผ่านและประเภทของการจ่ายเงิน หากไม่กดจะไม่มีเงินปรากฏในเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่เครื่องตรวจจับพื้นที่ถนนจะเป็นตัวฟ้องว่ามีรถผ่านโดยมีเสียงสัญญาณดังขึ้น และพนักงานควบคุมจะทราบเพราะเครื่องทำงานไม่ครบวงจร ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีเจตนาไม่ยอมกดแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์เพื่อจะได้ไม่มีเงินปรากฏในเครื่องคอมพิวเตอร์หรือคนที่ขับรถผ่านทางไม่ยอมจ่ายเงิน ซึ่งเป็นไปได้ยากเพราะเมื่อรถวิ่งผ่านด่านจะมีการกดเครื่องให้แผงไม้กั้นไม่ให้รถวิ่งผ่านไปได้จนกว่าจะชำระค่าผ่านทางจึงจะเปิดไม้ให้รถผ่านไปได้ การที่จะอ้างว่ากดแป้นเครื่องคอมแล้วเครื่องไม่ทำงานทำให้จำนวนเงินไม่ปรากฏในเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เพราะสัญญาณตรวจจับบนพื้นถนนจะส่งเสียงดังทำให้พนักงานผู้ควบคุมทราบว่ายังไม่ได้ชำระเงินจึงไม่อาจจะกระทำได้โดยลำพัง เว้นเสียแต่พนักงานควบคุมจะมีเจตนาร่วมกับจำเลยในการกระทำผิดด้วยก็อาจปล่อยให้ผ่านไปโดยไม่ดำเนินการใดๆ แต่แม้จะร่วมมือกันก็ตาม แต่เครื่องจับที่พื้นถนนก็จะฟ้องเองว่าจำนวนเงินที่เก็บได้กับจำนวนรถที่วิ่งผ่านไม่สัมพันธ์กัน ซึ่งต้องมีสัญญาณดังขึ้นแสดงว่ารถคันนี้ยังไม่ได้จ่ายค่าผ่านทาง หากผู้ควบคุมยอมให้รถผ่านไปได้หรือไม่ไปตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่เก็บเงินย่อมแสดงว่ามีเจตนาร่วมกับผู้เก็บเงินที่จะเบียดบังเอาเงินค่าผ่านทาง การที่มีเครื่องตรวจจับรถที่แล่นผ่านบนถนนเพื่อป้องกันการทุจริตของพนักงานเก็บเงิน ซึ่งพนักงานเก็บเงินอาจไม่ทราบว่ามีระบบดังกล่าวคอยตรวจสอบการทำงานของตนอยู่
๓.เคยพบรถยนต์ส่วนตัวทะเบียนตราโลห์ผ่านทางแต่ไม่ยอมจ่ายค่าผ่านทางแต่ขับผ่านทางไปเลย เจ้าหน้าที่ได้ไล่ติดตามแสดงให้เห็นว่าพนักงานผู้ควบคุมคอยตรวจสอบเมื่อมีเสียงสัญญาณดังขึ้นซึ่งแสดงว่ายังไม่ได้มีการจ่ายเงินค่าผ่านทาง จึงได้ติดตามไม่ยอมให้ผ่านไปได้ อันแสดงให้เห็นว่าพนักงานผู้ควบคุมไม่ได้มีเจตนาร่วมกับพนักงานเก็บเงินที่จะละเว้นการเก็บเงินเพื่อนำเงินส่วนนี้ไปเป็นประโยชน์ส่วนตน ได้ยินเสียงคนเก็บเงินด่าตามหลังว่า “ ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่........แล้วไม่ยอมจ่ายเงิน ใหญ่มากหรือไง หากตามจับไม่ได้ก็ต้องควักกระเป๋าตัวเองจ่ายแทน” ซึ่งแสดงให้เห็นว่าระบบการกดแป้นในเครื่องคอมพิวเตอร์ต้องสัมพันธ์กับเครื่องตรวจจับจำนวนรถที่วิ่งผ่าน
๔.ข้ออ้างของจำเลยที่ว่ากดแป้นพิมพ์แล้ว เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ทำงาน นั้นเครื่องตรวจจับที่พื้นถนนจะตรวจนับจำนวนรถที่วิ่งผ่านเอง เมื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาเปรียบเทียบกันแล้วปรากฏว่าจำเลยส่งเงินขาด ๘ ครั้ง หากจำเลยไม่มีเจตนาจะเอาเงินค่าผ่านทางดังกล่าวไป จำเลยก็ควรที่จะมอบเงินค่าผ่านทางทั้งหมดไม่ใช่ขาดหายไป ๘ ครั้ง ครั้ง แม้ไม่มีพยานบุคคลยืนยันว่า จำเลยเบียดบังเงินค่าผ่านทาง แต่เมื่อจำเลย มีหน้าที่รักษาเงินและเก็บเงินในช่วงเวลาดังกล่าว แม้เป็นระยะเวลาอันสั้น และเป็นผู้รับเงินและรวบรวมนำส่งต่อไป ลำพังการจะหาพยานมายืนยันการกระทำความผิดของจำเลยแล้วหายาก เพราะจำเลยยอยู่ในตู้เก็บเงินเพียงลำพังคนเดียว จำเลยจะมีเจตนาไม่กดแป้นคอมพิวเตอร์หรือกดแล้วเครื่องไม่ทำงานก็ยากที่จะมีบุคคลอื่นรู้เห็น จำเลยเท่านั้นที่ทราบ แต่จากพฤติกรรมที่หากว่ากดแป้นแล้วเครื่องไม่ขึ้นจำนวนเงินก็ต้องรีบดำเนินการตรวจสอบแล้วหากพบว่าเครื่องมีปัญหาต้องงดใช้เครื่องและให้ไปใช้บริการในช่องถัดไป ไม่ใช่ยังคงใช้เครื่องนั้นเก็บเงินต่อไป การที่จำเลยปล่อยให้ไม่มีเก็บเงินถึง ๘ ครั้ง และเงินทั้ง ๘ ครั้งก็ไม่ได้รวบรวมนำส่งย่อมเป็นเครื่องชี้เจตนาว่าจำเลยไม่มีเจตนานำเงินส่ง มากกว่าเป็นกรณีที่กดแล้วเครื่องไม่ทำงาน จึงเป็นกรณีที่เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการทรัพย์เบียดบังยักยอกทรัพย์เป็นของตนโดยทุจริตตาม ป.อ. มาตรา ๑๔๗ แล้ว
๕.ข้ออ้างว่ากดแล้วเครื่องไม่ทำงาน แต่ปรากฏว่าไม่ทำงานแค่ ๘ ครั้ง แต่ส่วนใหญ่แล้วเครื่องทำงานได้ ข้ออ้างของจำเลยจึงไม่มีน้ำหนักมาหักล้างว่าจำเลยไม่มีเจตนาทุจริตเพราะหากเครื่องไม่ทำงานควรไม่ทำงานทั้งหมดไม่ใช่ไม่ทำงานเป็นส่วนน้อย ทำงานเป็นส่วนใหญ่ เมื่อพบเครื่องมีปัญหาก็ไม่ได้แก้ไขหรืองดใช้เครื่อง ทั้งเงินที่ขาดหายไป ๘ ครั้งก็ไม่ได้นำส่งให้ครบส่อให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตมากกว่าที่เครื่องไม่ทำงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น