ค้นหาบล็อกนี้

วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2559

“ประพฤติชั่ว”

๑.เมาสุราต้องเสพสุราทุกวัน เมาแล้วด่าทุบตีภรรยาเป็นประจำ บางครั้งใช้กำลังทำร้ายต่อยเตะจนฟันหัก ใช้ไม้ตีใช้มีดไล่ฟัน คำพิพากษาฏีกา ๑๔๖๖/๒๔๙๓
๒.ทำร้ายร่างกาย ด่าบิดาภรรยาว่า “ ชิงหมาเกิด” บังคับให้ภรรยาจำนองที่ดิน คำพิพากษาฏีกา ๑๙๕๓/๒๕๑๙
๓.ปลุกปล้ำทำร้ายร่างกายลูกจ้าง ใช้กำลังบังคับให้ลูกจ้างร่วมประเวณีด้วย คำพิพากษาฏีกา ๑๘๔๕/๒๕๒๙
๔.นำทรัพย์สินในบ้านไปจำนำเพื่อนำมาเล่นการพนัน เคยถูกดำเนินคดีฐานเล่นการพนันก็ไม่ยอมเลิกเล่น โจทก์เป็นตำรวจถูกผู้บังคับบัญชาเรียกไปตักเตือน หากไม่ห้ามจำเลยเลิกเล่นจะย้ายโจทก์ โจทก์ต้องเลี้ยงดูครอบครัว เมื่อจำเลยไปเล่นการพนันเงินไม่พอใช้ คำพิพากษาฏีกา ๒๑๔๑/๒๕๓๑
๕.ภรรยาทำเสน่ห์ให้สามีรัก ไม่ถือเป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง คำพิพากษาฏีกา ๔๑๒/๒๕๐๑
๖.สามีภรรยาไม่พูดกัน ใช้การเขียนเป็นจดหมายแทนการพูด เนื่องจากโกรธที่สามีไปมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับหญิงอื่น เพราะไม่ต้องการให้บุตรได้ยินการทะเลาะกัน และเพื่อไม่ให้ตนถูกทำร้าย ไม่ถือเป็นการประพฤติชั่ว คำพิพากษาฏีกา ๑๓๓๕/๒๕๓๓
๗.สามีมีสัมพันธ์ทางชู้สาวกับหยิงอื่น จึงเกิดอารมณ์หึงหวง ระงับอารมณ์ไม่อยู่ ชวนทะเลาะวิวาท จนถึงขั้นทุบตี แม้จะทะเลาะในสถานที่ทำงานของสามีต่อหน้าลูกค้าของธนาคารก็ยังไม่ถือประพฤติชั่วร้ายแรง คำพิพากษาฏีกา ๑๖๔๘/๒๕๒๔
๘. สามีเป็นที่ปรึกษาและเป็นกรรมการบริษัท ภรรยาได้มาพูดกับพนักงานหญิงว่า “ พวกนางดอกทอง ระวังตัวอย่ามาแย่งผัว”และเรียกพนักงานชายมาต่อว่า “ ระวังเมียเจ้าให้ดีอย่าให้มายุ่งกับผัวข้า” เป็นคำพูดด้วยความหึงหวงเพื่อไม่ให้สามีสามีกับพนักงานบริษัทมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกัน ยังไม่ถึงกับเป็นการประพฤติชั่วอันเป็นเหตุฟ้องหย่าได้ คำพิพากษาฏีกา ๓๕๑๓/๒๕๓๒
ข้อสังเกต ๑. การเมาสุราก็ดี การทุบตีทำร้ายร่างกาย การด่าบุพการีอีกฝ่าย การเล่นการพนันจนทำให้เงินไม่พอใช้ในครอบครัว หรือการใช้กำลังปลุกปล้ำสาวใช้ เหล่านี้เป็นการประพฤติชั่ว แม้การกระทำบางอย่างอาจเป็นความผิดทางอาญาหรือแม้ไม่เป็นความผิดทางอาญาก็ตาม ก็เป็นการประพฤติชั่ว ซึ่งคู่สมรสอีกฝ่ายฟ้องหย่าได้ เพราะการประพฤติชั่วดังกล่าวทำให้คู่สมรสอีกฝ่ายได้รับความอับอาย เดือดร้อนเกินควรในเมื่อเอาสภาพ ฐานะ ความเป็นอยู่การร่วมกันเป็นสามีภรรยามาพิจารณาแล้วเห็นว่าการอยู่ร่วมกันจะไม่มีความสุข คู่สมรสอีกฝ่ายอาจได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง หรือถูกดูถูกเกลียดชังเพราะการที่คู่สมรสอีกฝ่ายประพฤติชั่ว คู่สมรสอีกฝ่ายฟ้องหย่าได้
๒. การที่สามีภรรยาไม่พูดกัน ใช้การเขียนจดหมายแทนการพูดเพื่อไม่ให้บุตรได้ยินการทะเลาะกัน และเพื่อไม่ให้ตนถูกทำร้าย เป็นเพราะโกรธที่สามีไปมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับหญิงอื่น การกระทำของสามีเป็นเหตุให้ภรรยาดูถูกเกลียดชังและไม่ยอมพูดด้วย เพียงเท่านี้ยังถือไม่ได้ว่าภรรยาประพฤติชั่วหรือกระทำการเป็นปรปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยาอันจะเป็นเหตุฟ้องหย่าได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๕๑๖(๒)(๖)
๓.การทำเสน่ห์ให้สามีรักก็เพียงเพื่อให้สามีไม่ไปติดพันกับหญิงอื่น เพราะยิ่งอยู่ด้วยกันนานวันขึ้นความรักย่อมจืดจางลงไปบ้างไม่มากก็น้อย การทำเสน่ห์ก็เพื่อผูกมัดให้คู่สมรสของตนไม่จากไปไหน ยังไม่ใช่การประพฤติชั่วที่จะเป็นเหตุฟ้องหย่าได้ แม้จะทำเสน่ห์ด้วยการนำผ้าอนามัยใช้แล้วไปตากแดดแล้วนำมาขูดเป็นผงผสมในอาหารให้สามีทานหรือใช้วิธีการเอาผ้าถุงหรือกระโปรงคล่อมหรือเดินข้ามอาหารให้ฝ่ายชายทาน หรือจะทำด้วยการฝังรูปฝังลอยไม่ว่าจะใช้ใบรักผูกหุ่นดินสองตัวหรือหุ่นที่ทำจากเทียนหรือสีผึ้งแล้วนำมาผูกติดกันใช้ การกระทำต่างๆก็เพียงเพื่อจะให้สามีรักเท่านั้น แต่มองในมุมกลับกัน การใช้ของสกปรกเช่นใช้ผ้าอนามัยใช้แล้วไปตากแดดแล้วนำมาผสมในอาหารให้ทาน หรือการที่หญิงเอากระโปรงหรือผ้าถุงหรือก้าวข้ามอาหารที่นำไปให้สามีทาน ผู้ชายบางคนอาจถือและคิดว่าทำให้ทำมาค้าขายไม่ขึ้นรับราชการไม่ก้าวหน้า แต่ก็เป็นเพียงความรู้สึกส่วนตัว ยังไม่พอถือว่าเป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงถึงขนาดที่จะฟ้องหย่าได้
๔.การที่สามีไปมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับหญิงอื่นย่อมทำให้ภรรยาหึงหวงและตามไปอาละวาดชวนทะเลาะแม้ในที่ทำงานสามีและกระทำต่อหน้าลูกค้าสามี และเมื่อทะเลาะแล้วอาจมีการใช้กำลัง แต่เหตุที่กระทำนั้นเพราะสามีเป็นตนเหตุ เพียงเท่านี้ยังถือไม่ได้ว่าประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงที่จะยกมาเป็นเหตุหย่าไม่ได้
๕.คำพูดที่ไปกล่าวกับพนักงานหญิงว่า ““ พวกนางดอกทอง ระวังตัวอย่ามาแย่งผัว”และคำพูดที่พูดกับพนักงานชายว่า “ ระวังเมียเจ้าให้ดีอย่าให้มายุ่งกับผัวข้า” เป็นการกระทำด้วยความหึงหวงที่สามีเป็นคนเจ้าชู้ซึ่งสามีเป็นที่ปรึกษาและกรรมการบริษัทอาจไปมีความสัมพันธ์กับพนักงานในบริษัทได้ คำพูดดังกล่าวแม้ไม่สุภาพ แต่ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการประพฤติชั่วอันจะทำให้สามีได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง หรือจนได้รับความดูถูกเกลียดชัง ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนจนเกินควรอันจะเป็นเหตุฟ้องหย่าได้

ไม่มีความคิดเห็น: