ค้นหาบล็อกนี้
วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2559
“ตามกระแส โหนกระแสหรือตามข้อเท็จจริง”
ไม่ใช่ต้นสายแห่งกระบวนการยุติธรรม ต้นสายทำอย่างไงไว้บ้างไม่รู้ การให้ความเป็นธรรมแก่คู่ความต้องคำนึงถึงพยานหลักฐานในสำนวน ไม่ว่าพยานหลักฐานนั้นจะตรงตามความเป็นจริงหรือไม่อย่างไร ต้นสายกระบวนการยุติธรรมทำมายังไงไม่รู้ จริงหรือเท็จผิดหรือถูกไม่รู้ จริงบ้างเท็จบ้างหรืออย่างไรไม่ทราบ หรือจริงทั้งหมด เท็จทั้งหมดไม่ทราบ หรือมีทั้งจริงทั้งเท็จปนกันก็ไม่ทราบ ซึ่งต้นสายแห่งกระบวนการยุติธรรมอาจไม่รู้ หรืออาจรู้ หรือรู้บ้างไม่รู้บ้างก็ตาม ผู้เสียหายและพยานที่ให้การให้การตามความเป็นจริงหรือไม่อย่างไรไม่ทราบ แต่เมื่อปรากฏในสำนวนการสอบสวนแล้วต้องยึดเป็นหลัก จะไปรับฟังข้อเท็จจริงนอกสำนวนหรือตามกระแสไม่ได้ ผู้เสียหายหรือพยานที่ให้การเท็จ เวลามาเบิกความที่ปลายทางกระบวนการยุติธรรม ก็มีบทลงโทษอยู่แล้วทั้งที่ให้การในชั้นแรกกับต้นสายกระบวนการยุติธรรมหรือมาเบิกความที่ปลายสายกระบวนการยุติธรรมก็ตาม ต้นสายกระบวนการยุติธรรมทำสำนวนอย่างไรไม่ทราบหากไม่ถูกต้องตรงความเป็นจริงก็มีโทษรองรับอยู่แล้ว ดังนั้นข้อเท็จจริงในสำนวนจึงเป็นสิ่งที่ต้องยึดมั่น โดยไม่นำข้อเท็จจริงนอกสำนวนมาสั่ง แม้ว่าข้อเท็จจริงในสำนวนไม่ถูกต้อง หรือจริงบ้างเท็จบ้างก็ตาม ไม่เอาข้อเท็จจริงนอกสำนวนมาสั่ง ไม่สั่งตามกระแส หรือตามการเรียกร้องของกลุ่มบุคคลที่รวมตัวกัน หรือตามความสะใจของคนบางคนหรือบางกลุ่ม ไม่สั่งตามข้อเท็จจริงที่รับรู้มาจากภายนอกโดยไม่มีปรากฏในสำนวน แต่สั่งจากพยานหลักฐานในสำนวน คนบางกลุ่มมีกฎหมายยกเว้นโทษตัวเองไว้ แต่สำหรับกระบวนการยุติธรรมในชั้นที่สองหรือชั้นกลางไม่มีบทนิรโทษกรรมไว้ การเข้าจับกุมตรวจค้นของกลุ่มบุคคลที่กระทำโดยไม่มีความรู้ทางกฏหมายหรือมีแต่รู้ไม่มากไม่รู้จริง หรือแม้เจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจจับกุมบางคน(เน้นนะครับว่าบางคนไม่ใช่ทุกคน)ก็ไม่มีความรู้ทางกฎหมายอย่างแท้จริง การเข้าจับกุมและยึดของกลางตรวจสอบของกลางที่ไม่ได้กระทำให้ถูกต้องตามหลักวิชาการที่ทางราชการกำหนด ทางราชการไม่รับรองผลการตรวจสอบดังกล่าว เมื่อมีการดำเนินคดีขึ้นมาผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ชำนาญการที่มาเบิกความในกระบวนการยุติธรรมปลายสายไม่ยอมรับก็จะมีปัญหาตามมา การสั่งสำนวนตามกระแส ตามการตรวจยึดที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการในการตรวจของกลาง ย่อมนำมาสู่ปัญหา แม้ต้นธารของกระบวนการยุติธรรมในเรื่องเดียวกัน แต่เป็นคนละชุดยังสอบสวนแตกต่างกันมามีความเห็นและคำสั่งแตกต่างกันมา ปัญหาจึงอยู่ที่ควรจะเชื่อพยานหลักฐานชุดไหนอย่างไร ปัญหาอยู่ที่เกิดเหตุเมื่อใด ที่ไหน อย่างไร หากรู้จุดนี้ก็จะสามารถหาตัวผู้ที่ต้องรับผิดได้ แต่การที่ไม่รู้ว่าเหตุเกิดเมื่อใดจะไปหาตัวผู้ที่รับผิดได้อย่างไร เหตุเกิดในช่วงนี้เวลานี้อาจเป็นความผิดฐานหนึ่ง เกิดอีกช่วงหนึ่งก็เป็นอีกฐานหนึ่ง เกิดในช่วงนี้บุคคลนี้ต้องรับผิด เกิดอีกในช่วงหนึ่งบุคคลนี้อาจไม่ต้องรับผิดแต่เป็นบุคคลอื่นที่ต้องรับผิด ต้นธารกระบวนการยุติธรรมบางคน (เน้นนะครับว่าบางคน)แถลงข่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในสำนวน และอ้างว่าทำความเห็นมาแบบนี้แต่จริงๆแล้วทำความเห็นมาอีกแบบหนึ่ง กระบวนการยุติธรรมในหน่วยงานที่สองหากสั่งสำนวนไปตามกระแสหรือตามการเรียกร้องหรือตามความสะใจของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดก็ตามอย่าลืมว่าการสั่งสำนวนโดยรับฟังข้อเท็จจริงนอกสำนวน การสั่งสำนวนตามกระแส นั้นไม่มีอะไรรองรับ โอกาสถูกฟ้องกลับมี รัฐธรรมนูญเปลี่ยน รัฐบาลเปลี่ยน ผู้บังคับบัญชาเปลี่ยน กฎหมายเปลี่ยน ระเบียบการดำเนินคดีเปลี่ยน ใครจะมาเป็นรัฐบาล ใครจะมาเป็นฝ่ายค้าน ใครจะมาเป็นผู้บังคับบัญชา กฎหมายจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ระเบียบจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร นโยบายของผู้มีอำนาจคนต่อไปจะเป็นอย่างไรไม่มีใครทราบ ไม่มีใครทราบล่วงหน้า หน่วยงานในกระบวนการกลางสายธารแห่งความยุติธรรมจะคงสถานะเหมือนในปัจจุบันหรือไม่อย่างไร ไม่มีใครทราบอนาคตเบื้องหน้า การสั่งสำนวนที่ไม่ยึดโยงพยานหลักฐานในสำนวนย่อมอันตราย การสั่งจะตามกระแสหรือฝืนกระแสย่อมขึ้นกับข้อเท็จจริงในสำนวน ไม่ใช่การสั่งตามใจใครหรือตามใจกลุ่มบุคคลหนึ่งบุคคลใด วันนี้มีอำนาจ วันหน้าหมดอำนาจ การไปสั่งตามใจใครตามใจกระแสจึงเป็นอันตรายอย่างยิ่ง สำนวนผิดถูกอย่างไรไม่ทราบต้องยึดข้อเท็จจริงในสำนวนการสอบสวนเป็นหลัก หากอยากให้รู้ข้อเท็จจริงดีกว่านี้ ต้องให้กระบวนการยุติธรรมทั้งต้นธารและกลางธารร่วมกันในการสอบสวนไปด้วยกัน แต่ตราบใดยังไม่ได้เป็นแบบนี้ก็ต้องยึดโยงจากหลักฐานในสำนวนเป็นสำคัญ ทุกวันนี้คือการตรวจสอบความจริงจากกระดาษหรือเอกสารซึ่งในประเทศที่พัฒนาแล้วเขาไม่ค่อยกระทำกัน เพราะไม่ทราบว่าจริงๆแล้วเป็นอย่างไง แต่ก็ต้องเชื่อใจในต้นธารแห่งกระบวนการยุติธรรมว่าส่วนใหญ่ให้ความเป็นธรรมแก่คู่ความ อาจมีส่วนน้อยที่เป็นพวกแตกแถว ซึ่งน่ามีไม่มากนัก ในฐานะพี่เตือนน้อง อย่าถือว่าสอน ขอย้ำเตือนว่า สั่งสำนวนยึดข้อเท็จจริงในสำนวนปลอดภัย ไม่ตามกระแส โหนกระแส หรือตามใจใครหรือตามกลุ่มบุคคลหรือกลุ่มคนที่รวมตัวกันขึ้น บางครั้งสำนวนยังอยู่ที่ต้นสายกระบวนการยุติธรรม แต่มีการนัดรวมกลุ่มประท้วงต่อต้านการสอบสวนที่ศาลากลางหรือสนง.ของกระบวนการยุติธรรมกลางสายก็มี รวมตัวกันขอให้ปล่อยผู้ต้องหาก็มี ดังนั้นสำคัญที่สุดคือข้อเท็จจริงในสำนวน เวลามีปัญหาไม่มีใครช่วยคุณได้ ข้อเท็จจริงในสำนวนเท่านั้นที่ช่วยคุณได้ ในฐานะพี่เตือนน้อง ในประสบการณ์ที่พบมาก่อนเจอของอ่อน ของแข็งมามาก จึงฝากเตือนน้องๆว่าสำคัญที่สุดคือข้อเท็จจริงในสำนวนการสอบสวน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น