สมคบจัดหาหญิง

ผู้ต้องหาที่ ๑ พักอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านหนองดุม ตำบลหนองหัวช้าง อำเภอกันทรารมย์ ได้ชวนผู้เสียหายไปทำงานที่ร้านอาหารของผู้ต้องหาที่ ๒ ซึ่งเป็นบุตรสาวของผู้ต้องหาที่ ๑ ที่ประเทศอิตาลี โดยผู้ต้องหาที่ ๑ จะออกค่าใช้จ่ายให้ก่อน แล้วหักเอาเงินค่าแรงหลังจากได้งานทำแล้ว หากไม่สามารถได้งานดังกล่าวก็ให้ไปทำงานเก็บผลไม้ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงตกลงไป เมื่อผู้เสียหายไปที่บ้านผู้ต้องหาที่ ๑ พบ นางสาวน.ซึ่งถูกผู้ต้องหาที่ ๑ หลอกให้ไปทำงานที่ประเทศอิตาลีเช่นกัน แม้ไม่ปรากฏว่า ผู้เสียหายที่ ๓ ร่วมกับผู้ต้องหาที่ ๑ ใช้อุบายหลอกลวงผู้เสียหายกับ นางสาว น. ในประเทศไทยให้ไปทำการค้าประเวณีในประเทศอิตาลี แต่การที่ผู้ต้องหาที่ ๓ เคยทำการค้าประเวณีมาก่อน และมีภูมิลำเนาในประเทศไทย อยู่ในละแวกเดียวกับผู้ต้องหาที่ ๑ ไปรอรับผู้เสียหายและนางสาว น. ที่สนามบินในประเทศฝรั่งเศส แล้วร่วมกับชายต่างชาตินำผู้เสียหายและนางสาว น. ไปส่งให้ผู้ต้องหาที่ ๒ ในประเทศอิตาลี โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นการนำพาไปเพื่อทำการค้าประเวณีและได้รับเงินค่านำพา ๕๐,๐๐๐ บาท โดยเมื่อไปถึง ผู้ต้องหาที่ ๒ ได้บอกผู้เสียหายว่า ไม่มีงานอื่นให้ทำนอกจากงานค้าประเวณี และบอกว่า ผู้เสียหายเป็นหนี้ผู้ต้องหาที่ ๒ จำนวน ๖๕๐,๐๐๐บาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่ได้ออกเงินแทนไป และเป็นหนี้ค่าจ้างคนไปรับที่สนามบินคนละ ๕๐,๐๐๐ บาท โดยผู้ต้องหาที่ ๒ จะหักค่าแรงจากการที่ผู้เสียหายให้บริการแขกหรือลูกค้าที่ร่วมประเวณี ผู้เสียหายจึงทำงานให้บริการทางเพศแก่ลูกค้า ๒ ราย ส่วนนางสาว น. ยังไม่เริ่มงาน เนื่องจากเพิ่งคลอดลูก ทั้งบุตรเพิ่งหย่านม และยังมีประจำเดือน พฤติการณ์ฟังได้ว่า ผู้ต้องหาที่ ๓ สมคบกับผู้ต้องหาที่ ๑ และ ที่ ๒ โดยกระทำการแบ่งหน้าที่กัน จึงมีความผิดฐานร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระ จัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งหญิงโดยใช้อุบายหลอกลวง ร่วมกันพาหรือส่งคนออกไปนอกราชอาณาจักรโดยใช้อุบายหลอกลวง ร่วมเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไป ซึ่งหญิง เพื่อให้ทำการค้าประเวณีโดยใช้อุบายหลอกลวง สมคบกันตั้งแต่ สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้าหญิง ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด รับ หน่วงเหนี่ยว กักขังหญิง จัดให้หญิงกระทำการหรือยอมรับการกระทำใด เพื่อสนองความใคร่ผู้อื่นเพื่อการอนาจาร เพื่อแสวงหาประโยชน์อันไม่ควรได้โดยชอบด้วยกกหมายไม่ว่าหญิงจะยินยอมหรือไม่ และได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ได้สมคบ( ชี้ขาดความเห็นแย้ง ๕๔๖/๒๕๕๒)