ค้นหาบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2559

"ปืนเป็นอาวุธร้ายแรง"

ตำรวจย่อมทราบว่าอาวุธปืนเป็นอาวุธร้ายแรงที่สามารถทำอันตรายแก่ชีวิตได้โดยง่าย แต่ยังนำอาวุธปืนมาขมขู่ผู้ตายโดยจ่อไปที่ศรีษะผู้ตาย ย่อมเล็งเห็นได้ว่าปืนอาจลั่นถูกผู้ตายเสียชีวิตได้ ผู้ตายได้ปัดป้อง ปืนจึงลั่นถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย ถือมีเจตนาฆ่า คำพิพากษาฏีกาที่ ๗๖๖๙/๒๕๔๙
แม้ยิงเพียงนัดเดียว ย่อมเล็งเห็นผลหรือคาดหมายได้ว่า กระสุนปืนอาจทำให้ถึงแก่ความตายได้หากถูกอวัยวะสำคัญ แม้จะไม่ยิงซ้ำทั้งที่ยังเหลือกระสุนอีก ๕ นัด เพราะผู้เสียหายร้องว่า " อย่ายิง" ประกอบกับมีคนเดินผ่านมาจึงไม่ยิงผู้เสียหาย ถือมีเจตนาฆ่า คำพิพากษาฏีกา ๗๗๙๒/๒๕๔๐
รับราชการทหารมาก่อน จึงเป็นผู้คุ้นเคยและจัดเจนในการใช้อาวุธและทราบอนุภาพความร้ายแรงของอาวุธว่่า หากถูกอวัยวะใดย่อมทำให้ถึงแก่ความตายได้ การที่ยิงที่ท้องและทรวงอกที่เป็นอวัยวะสำคัญด้วยความโกรธที่ผู้ตายไม่ยอมตามความประสงค์ ถือมีเจตนาฆ่า คำพิพากษาฏีกา ๑๐๔๐/๒๕๔๘
พูดว่า " เย็ดแม่ ยิงให้ตายโหง" แล้วหันปากกระบอกปืนไปยังผู้เสียหายที่หลัง ซึ่งกำลังวิ่งหนีโดยเล็งไปที่ส่วนอวัยวะสำคัญ แม้ยิงไม่ถูก ไม่มีร่องรอยกระสุนปืน ก็อาจเป็นเพราะยิงในขณะเมา อาวุธปืนอาจสบัดปากกระบอกปืนเบี่ยงสูงขึ้นก้อาจเป็นได้ ผิดพยายามฆ่า คำพิพากษาศาลฏีกา ๑๑๒/๒๕๓๔

ไม่มีความคิดเห็น: