ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2559

“ค่าเสียหายอันเกิดจากพฤติการณ์พิเศษ”

๑.ก่อสร้างบ้านไม่เสร็จต้องไปเช่าบ้านอยู่ คำพิพากษาฏีกา ๕๐๗/๒๕๒๐
๒.ผิดนัดไม่โอนบ้านและที่ดินต้องไปเช่าบ้านอยู่ คำพิพากษาฏีกา ๙๑๒/๒๕๑๔
๓.ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน ผู้จะซื้อได้ปลุกบ้านในที่ดินดังกล่าวแล้ว ผู้จะขายยังเอาที่ดินไปขายแก่บุคคลอื่นอีก ผู้จะขายต้องรับผิดในค่ารื้อถอนที่ผู้จะซื้อออก คำพิพากษาฏีกา ๑๐๓๗/๒๔๙๑
๔.สั่งซื้อสินค้าเพื่อไปขายต่างประเทศ สินค้าชำรุดบกพร่องเนื่องจากการผลิตใช้วัสดุที่ไม่ดีทำให้นำไปจำหน่ายไม่ได้ ผู้ขายต้องชดใช้ค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปในการขนส่ง ค่าประกันภัย ค่าภาษี คำพิพากษาฏีกา ๙๐๓/๒๕๑๒๙ รวมทั้งค่าวัสดุสำหรับการหีบห่อสินค้าและโกดังเก็บสินค้า คำพิพากษาฏีกา ๒๓๘๙/๒๕๒๙
๕.การคาดเห็นความเสียหายที่เกิดจากพฤติการณ์พิเศษที่ คู่กรณีคาดเห็นหรือควรจะคาดเห็นพฤติการณ์นั้นล่วงหน้าก่อนแล้วตาม ปพพ. มาตรา ๒๒๒ หมายถึงการคาดเห็นตอนไม่ชำระหนี้ก็ได้ คำพิพากษาฏีกา ๘๒๔/๒๔๙๑,๑๕๙๙/๒๕๒๗
๖.เงินที่ผู้ซื้อต้องเสียเพิ่มเป็นค่าเสียหายตามปกติ แต่ถ้าไม่สามารถซื้อสินค้านี้จากที่อื่นได้ ทำให้ขาดกำไรที่จะไปขายต่อ กำไรนี้เป็นพฤติการณ์พิเศษ คำพิพากษาฏีกา ๒๕๐/๒๔๘๙,๙๕๗/๒๔๙๖
๗.ผิดสัญญาเช่าทำให้ต้องไปเช่าที่อื่นที่แพงขึ้น เป็นค่าเสียหายตามปกติ แต่การที่ผู้ให้เช่าไม่สามารถใช้สถานที่เช่าได้ จึงทำให้ผู้เช่าไม่อาจนำไปใช้หาประโยชน์หรือกำไรได้ เป็นพฤติการณ์พิเศษ คำพิพากษาฏีกา ๙๐๖/๒๔๙๐
๘.ถูกปรับเพราะไม่สามารถส่งมอบทรัพย์ตามสัญญาให้บุคคลภายนอกได้เป็นค่าเสียหายที่เกิดจากพฤติการณ์พิเศษ คำพิพากษาฏีกา ๕๕๖/๒๕๑๑ ก็ต่อเมื่อผู้ซื้อแจ้งผู้ขายว่าตนอาจถูกปรับได้หากไม่สามารถส่งมอบทรัพย์ ค่าปรับเป็นพฤติการณ์พิเศษ แต่หากว่าไม่ได้แจ้งว่าตนอาจถูกปรับหากไม่ส่งมอบทรัพย์ให้ตนทำให้ตนไม่สามารถส่งมอบทรัพย์ให้แก่บุคคลภายนอกได้ ผู้ขายไม่อาจคาดหมายได้ จะเรียกค่าเสียหายในส่วนนี้จากผู้ขายไม่ได้ คำพิพากษาฏีกา ๘๒๔/๒๔๙๑
๙.ผิดสัญญาไม่ซื้อทรัพย์ตามที่ตกลงกันไว้ ทำให้ผู้ขายไม่ได้ซื้อทรัพย์จากบุคคลภายนอกเพื่อนำมาขายลูกหนี้ จึงถูกริบมัดจำ คำพิพากษาฏีกา ๗๘๘/๒๔๙๙
๑๐.ผู้รับโอนสิทธิ์การเช่าสัญญาจะชำระเงินให้ผู้โอนภายในกำหนด ผู้โอนจึงไปทำสัญญาซื้อที่ดินและอาคารโดยวางมัดจำได้ โดยหวังว่าจะได้รับเงินจากการโอนสิทธิ์การเช่าจากลูกหนี้ เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามกำหนด จึงไม่มีเงินชำระตามสัญญา จึงถูกริบมัดจำ คำพิพากษาฏีกา ๑๗๒๒/๒๕๑๕
ข้อสังเกต๑. เจ้าหนี้สามารถเรียกค่าสินไหมทดแทนได้ แม้กระทั้งเพื่อความเสียหายที่เกิดจากพฤติการณ์พิเศษ หากคู่กรณีได้คาดเห็นหรือควรจะคาดเห็นพฤติการณ์นั้นล่วงหน้า ปพพ. มาตรา ๒๒๒ วรรคท้าย ปกติเจ้าหนี้สามารถเรียกค่าเสียหายจากลูกหนี้ได้เฉพาะค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายซึ่งตามปกติย่อมเกิดขึ้นแต่การไม่ชำระหนี้เท่านั้นตาม ปพพ. มาตรา ๒๒๒ วรรคแรก
๒.ค่าสินไหมทดแทนที่เรียกได้เพื่อความเสียหายที่เกิดจากพฤติการณ์พิเศษเป็นไปตามหลักทฤษฏีมูลเหตุเหมาะสมว่าเพียงไหนอย่างไรเป็นพฤติการณ์พิเศษที่ลูกหนี้ต้องชำระ หากจะนำทฤษฏีผลโดยตรงที่ว่าหากไม่ทำผลไม่เกิด ผลเกิดถือว่าเกิดจากการกระทำเพื่อให้ต้องรับผิดนั้น หากนำทฤษฏีนี้มาใช้บังคับ ลูกหนี้ต้องรับผิดทุกกรณีซึ่งไม่เป็นธรรมแก่ลูกหนี้
๓. ทำสัญญาว่าจ้างให้ก่อสร้างบ้านให้เสร็จภายในอายุสัญญาเพื่อตนจะได้เข้าไปอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว แต่.ก่อสร้างบ้านไม่เสร็จภายในเวลาที่ระบุไว้ในสัญญา ทำให้ไม่มีที่อยู่ ต้องไปเช่าบ้านอยู่ นอกจากเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดจากการผิดสัญญาที่ไม่สามารถก่อสร้างบ้านเสร็จภายในกำหนดระยะเวลาที่ระบุไว้ในสัญญาแล้ว ค่าเช่าที่ต้องไปเช่าบ้านอยู่เพราะบ้านสร้างไม่เสร็จนี้เป็นความเสียหายที่เป็นพฤติการณ์พิเศษ ที่สามารถเรียกได้ หรือกรณีผิดนัดไม่โอนบ้านและที่ดินต้องไปเช่าบ้านอยู่ก็เช่นกัน ค่าเสียหายที่เกิดจากการผิดสัญญาที่ไม่สามารถโอนบ้านได้ตามกำหนดเป็นค่าเสียหายตามปกติ ส่วนค่าเช่าบ้านที่ต้องไปเช่าบ้านอยู่เป็นค่าเสียหายที่เป็นพฤติการณ์พิเศษ
๔..ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน ผู้จะซื้อได้ปลูกบ้านในที่ดินดังกล่าวแล้ว ผู้จะขายยังเอาที่ดินไปขายแก่บุคคลอื่นอีก เมื่อบุคคลอื่นซื้อโดยสุจริตเสียค่าตอบแทนจดทะเบียนสิทธิ์โดยสุจริตก่อน ย่อมมีสิทธิ์ดีกว่าตาม ปพพ. มาตรา ๑๒๙๙วรรคแรกเพราะเป็นการได้มาโดยนิติกรรมซึ่งอสังหาริมทรัพย์โดยนิติกรรมซื้อขายได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ บุคคลภายนอกย่อมมีสิทธิ์ดีกว่าผู้จะซื้อ ตามหลักส่วนควบบ้านซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ซึ่งโดยสภาพแห่งทรัพย์หรือโดยจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นย่อมเป็นสาระสำคัญในความเป็นอยู่ของตัวทรัพย์นั้น ไม่อาจแยกจากกันได้นอกจากทำลายหรือทำให้ทรัพย์บุบสายหรือเปลี่ยนแปลงรูปทรงไป ตามหลักแล้วบ้านที่เป็นส่วนควบที่ดินต้องตกเป็นสิทธิ์แก่เจ้าของที่ดิน แต่กรณีนี้เป็นการปลูกโรงเรือนโดยมีสิทธิ์ที่จะปลูกตามสัญญาจะซื้อจะขาย โรงเรือนจึงไม่ใช่ส่วนควบที่ดิน ตามปพพ มาตรา ๑๔๖ แต่อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าวนี้ก็เป็นการปลูกโรงเรือนลุกล้ำในที่ดินของคนอื่นโดยสุจริตคิดว่าตนมีสิทธิ์ปลูกได้ตามสัญญาจะซื้อจะขาย เจ้าของที่ดิน(ผู้ซื้อรายหลัง)สามารถบอกปัดไม่ยอมรับโรงเรือนและให้ผู้สร้างรื้อถอนและทำที่ดินให้กลับเป็นไปตามเดิมได้ ตามปพพ. มาตรา ๑๓๑๐ การที่ผู้จะซื้อต้องรื้อถอนโรงเรือนออกไปเป็นค่าเสียหายที่เป็นพฤติการณ์พิเศษที่ผู้จะขายต้องรับผิดในค่ารื้อถอนที่ผู้จะซื้อออก
๕.สั่งซื้อสินค้าเพื่อไปขายต่างประเทศ สินค้าชำรุดบกพร่องเนื่องจากการผลิตใช้วัสดุที่ไม่ดีทำให้นำไปจำหน่ายที่ต่างประเทศไม่ได้ ผู้ขายต้องชดใช้ค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปในการขนส่ง ค่าประกันภัย ค่าภาษี รวมทั้งค่าวัสดุสำหรับการหีบห่อสินค้าและโกดังเก็บสินค้า เป็นความเสียหายที่คาดหมายได้ว่าจะเกิดเป็นความเสียหายที่เป็นพฤติการณ์พิเศษ เพราะสามารถคาดเห็นได้ว่า การนำสินค้าไปขายต่างประเทศมีค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ค่าประกันภัย ค่าภาษีและค่าหีบห่อสินค้า เมื่อสินค้าที่ส่งมอบชำรุดบกพร่องไม่สามารถนำไปจำหน่ายได้ ผู้ขายจึงต้องรับผิดในค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ค่าประกันภัย ค่าภาษีและค่าหีบห่อสินค้าซึ่งถือเป็นค่าเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษ
๖.การคาดเห็นความเสียหายที่เกิดจากพฤติการณ์พิเศษที่ คู่กรณีคาดเห็นหรือควรจะคาดเห็นพฤติการณ์นั้นนอกจากจะคาดหมายได้ล่วงหน้าว่าจะเกิดความเสียหายขึ้นก็ตาม นั้นศาลฏีกายังตีความใน ปพพ. มาตรา ๒๒๒ หมายถึงการคาดเห็นตอนไม่ชำระหนี้ก็ได้
๗.ผิดสัญญาไม่สามารถส่งมอบสินค้าตามที่ตกลงซื้อขายกันไว้ ทำให้ผู้ซื้อต้องไปซื้อสินค้าจากที่อื่นในราคาที่สูงขึ้น เงินที่ผู้ซื้อต้องเสียเพิ่มเป็นค่าเสียหายตามปกติ แต่ถ้าไม่สามารถซื้อสินค้านี้จากที่อื่นได้ ทำให้ขาดกำไรที่จะไปขายต่อ กำไรนี้เป็นค่าเสียหายที่เป็นพฤติการณ์พิเศษ ที่ผู้ขายคาดได้ว่าผู้ซื้อซื้อเพื่อนำไปขายต่อเพื่อหวังกำไรอีกต่อหนึ่ง
๘.เช่าที่ดินเพื่อนำไปหาประโยชน์หรือกำไรอย่างอื่นในที่ดินที่เช่า ผู้ให้เช่าผิดสัญญาเช่าทำให้ต้องไปเช่าที่อื่นที่แพงขึ้น “ ค่าเช่าที่แพงขึ้นกว่าในสัญญา” เป็นค่าเสียหายตามปกติ” แต่การที่ผู้ให้เช่าไม่สามารถใช้สถานที่เช่าได้ จึงทำให้ผู้เช่าไม่อาจนำไปใช้หาประโยชน์หรือกำไรได้ เป็นค่าเสียหายอันเกิดจากพฤติการณ์พิเศษ
๙.ถูกปรับเพราะไม่สามารถส่งมอบทรัพย์ตามสัญญาให้บุคคลภายนอกได้เป็นค่าเสียหายที่เกิดจากพฤติการณ์พิเศษ ก็ต่อเมื่อผู้ซื้อแจ้งผู้ขายว่าตนอาจถูกปรับได้หากไม่สามารถส่งมอบทรัพย์ ค่าปรับเป็นพฤติการณ์พิเศษที่คู่กรณีเห็นได้ว่าหากไม่สามารถส่งมอบทรัพย์ให้ได้แล้วคู่กรณีอีกฝ่ายจะถูกบุคคลภายนอกปรับเป็นค่าเสียหาย แต่หากว่าไม่ได้แจ้งว่าตนอาจถูกปรับหากไม่ส่งมอบทรัพย์ให้ตนทำให้ตนไม่สามารถส่งมอบทรัพย์ให้แก่บุคคลภายนอกได้ ผู้ขายไม่อาจรู้หรือคาดหมายได้ว่าการผิดสัญญาของตนจะทำให้คู่กรณีอีกฝ่ายถูกบุคคลภายนอกปรับ ดังนี้ จะเรียกค่าเสียหายในส่วนนี้โดยถือเป็นค่าเสียหายที่เป็นพฤติการณ์พิเศษจากผู้ขายไม่ได้
๑๐.ผิดสัญญาไม่ซื้อทรัพย์ตามที่ตกลงกันไว้ ทำให้ผู้ขายไม่ได้ซื้อทรัพย์จากบุคคลภายนอกเพื่อนำมาขายลูกหนี้ จึงถูกริบมัดจำ เป็นพฤติการณ์พิเศษที่คู่กรณีอาจคาดหมายได้ว่า ผู้ขายซื้อของมาขายต่อเพื่อเอากำไรอีกทีโดยการซื้อของมาขายต่อย่อมต้องมีมัดจำไว้เพื่อกันการผิดนัด เมื่อผู้ซื้อผิดสัญญาไม่ซื้อสินค้าจากผู้ขาย ผู้ขายจึงถูกริบค่าปรับ จึงเป็นค่าเสียหายที่เป็นพฤติการณ์พิเศษที่สามารถเรียกค่าสินไหมทดแทนได้
๑๑.ผู้รับโอนสิทธิ์การเช่าสัญญาจะชำระเงินให้ผู้โอนภายในกำหนด ผู้โอนจึงไปทำสัญญาซื้อที่ดินและอาคารโดยวางมัดจำได้ โดยหวังว่าจะได้รับเงินจากการโอนสิทธิ์การเช่าจากลูกหนี้ เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามกำหนด จึงไม่มีเงินชำระตามสัญญา จึงถูกริบมัดจำ เป็นค่าเสียหายที่เป็นพฤติการณ์พิเศษ ก็ต่อเมื่อคู่กรณีอีกฝ่ายทราบหรือคาดเห็นได้ว่าผู้โอนต้องการเงินจากผู้รับโอนเพื่อนำไปทำสัญญาซื้อขายมิเช่นนั้นจะถูกริบมัดจำ แต่หากผู้รีบโอนไม่ทราบดังนี้ไม่ใช่ค่าเสียหายที่เกิดจากพฤติการณ์พิเศษแต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น: