การรับฝากยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีนจากเพื่อนนั้นยังถือไม่ได้ว่าร่วมกับ เพื่อนกระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายแต่เป็น เพียงให้ความสะดวกแก่เพื่อนในการมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จึงเป็นความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเพื่อนเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5808/2553
พนักงานอัยการจังหวัดเชียงราย โจทก์
จำเลยรับฝากเมทแอมเฟตามีนไว้จาก จ. โดยไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า จ. มีเจตนานำเมทแอมเฟตามีนของกลางมาส่งมอบให้จำเลยเพื่อจำหน่ายโดยตรงแต่อย่าง ใดจึงถือไม่ได้ว่า จำเลยมีเจตนาร่วมกับนาง จ. มีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามที่โจทก์ฟ้อง คงรับฟังได้เพียงว่า จำเลยให้ความสะดวกแก่ จ. ในการมีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำเลยจึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนนาง จ. กระทำความผิดเท่านั้น
________________________________
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 67, 102 ให้ริบเมทแอมเฟตามีนของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคสอง (เดิม), 66 วรรคสอง (เดิม), 102 ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต คำให้การของจำเลยในชั้นจับกุมและสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 คงจำคุก 33 ปี 4 เดือน ริบเมทแอมเฟตามีนของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำผิดฐานร่วมกับนาง จินดาและนางจันทร์สมมีเมทแอมเฟตามีนของกลาง 2 มัดนับจำนวนได้ 4,013 เม็ด น้ำหนักเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 100,917 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตตามที่โจทก์ฟ้องหรือไม่นั้น เห็นว่า พฤติการณ์ที่โจทก์นำสืบคงฟังได้เพียงจำเลยรับฝากเมทแอมเฟตามีนดังกล่าว ไว้จากนางจินดาและนางจันทร์สมเท่านั้น โดยไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่านางจินดาและนางจันทร์สมมีเจตนานำเมทแอมเฟตามีนของ กลางมาส่งมอบให้แก่จำเลยเพื่อจำหน่ายโดยตรงแต่อย่างใด กรณีจึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาร่วมกับนางจินดาและนางจันทร์สมมีเมทแอ มเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามที่โจทก์ฟ้อง กรณีคงรับฟังได้แต่เพียงว่าจำเลยให้ความสะดวกแก่นางจินดาและนางจันทร์สมใน การมีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายเท่านั้น จำเลยจึงคงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนนางจินดาและนางจันทร์สมกระทำผิดเท่า นั้น ดังนั้น ที่ศาลล่างทั้งสองศาลวินิจฉัยว่า จำเลยเป็นตัวการร่วมกระทำผิดด้วยนั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของจำเลยจึงฟังขึ้นบางส่วน
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคสอง (เดิม), 66 วรรคสอง (เดิม) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86, 53 ให้ลงโทษจำคุก 33 ปี 4 เดือน คำให้การของจำเลยในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสาม คงให้จำคุกจำเลยมีกำหนด 22 ปี 2 เดือน 20 วัน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 5
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น