ค้นหาบล็อกนี้

วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2564

ยาเสพติดของกลางมีหลายประเภท เวลาฟ้องนำสารบริสุทธิ์มาคิดรวมกันหรือไม่

 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๐๗๗๘/๒๕๕๙

         ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๖๖ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ผู้ใดจำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ โดยไม่ได้รับอนุญาต  และมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ หรือมีจำนวนหน่วยการใช้ หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่ถึงปริมาณที่กำหนดตามมาตรา ๑๕ วรรคสาม” และตามบทบัญญัติ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๑๕ วรรคสาม ได้แยกสารเสพติดให้โทษในประเภท ๑ ออกเป็น ๓ อนุมาตราตาม (๑) (๒) (๓)     แต่ละอนุมาตรากำหนดให้ยาเสพติดให้โทษแต่ละชนิดมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์หรือมีจำนวนหน่วยการใช้หรือมีน้ำหนักสุทธิอันเป็นข้อสันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายแยกต่างหากจากกัน ปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์หรือจำนวนหน่วยการใช้หรือน้ำหนักสุทธิของยาเสพติดให้โทษแต่ละอนุมาตราจึงต้องคำนวณจากยาเสพติดให้โทษในอนุมาตราเดียวกันไม่อาจนำยาเสพติดให้โทษในอนุมาตราอื่นมาคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์รวมกันได้

       ดังนั้นการที่ผู้ใดจำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ และมีปริมาณสารบริสุทธิ์ถึงปริมาณที่กำหนดตามมาตรา ๑๕ วรรคสาม หรือไม่    จึงต้องรวมปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ของยาเสพติดให้โทษตามมาตรา ๑๕ วรรคสาม เฉพาะในอนุมาตราเดียวกัน เมื่อตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๖๖ วรรคสาม บัญญัติว่า “ถ้ายาเสพติดให้โทษตามวรรคหนึ่งมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกินยี่สิบกรัมขึ้นไปต้องระวางโทษ…” ยาเสพติดให้โทษดังกล่าวมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกินยี่สิบกรัมหรือไม่จึงต้องรวมปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์จากยาเสพติดให้โทษตามมาตรา ๑๕ วรรคสาม อนุมาตราเดียวกันเช่นเดียวกับวรรคหนึ่งด้วย แม้เมทแอมเฟตามีนและเฮโรอีนเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ ด้วยกัน และการกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวกัน แต่เมื่อเมทแอมเฟตามีนและเฮโรอีนเป็นยาเสพติดให้โทษต่างชนิดกัน และบัญญัติอยู่ในมาตรา ๑๕ วรรคสาม ต่างอนุมาตรากัน จึงไม่อาจนำสารบริสุทธิ์ของเมทแอมเฟตามีนและเฮโรอีนมาคำนวณรวมกันเพื่อลงโทษจำเลยตามมาตรา ๖๖ วรรคสาม ได้

สรุปถ้าเป็น เมทแอมเฟตามีนและเฮโรอีนเป็นยาเสพติดให้โทษต่างชนิดกัน และบัญญัติอยู่ในมาตรา ๑๕ วรรคสาม ต่างอนุมาตรากัน จึงไม่อาจนำสารบริสุทธิ์ของเมทแอมเฟตามีนและเฮโรอีนมาคำนวณรวมกันเพื่อลงโทษจำเลยตามมาตรา ๖๖ วรรคสาม ได้

ไม่มีความคิดเห็น: