ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2564

ฆ่าผู้อื่นโดยบันดาลโทสะ ผู้มีอำนาจจัดการแทนผู้เสียหาย ผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม การยื่นคำร้องขอค่าสินไหมทดแทน ข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย

 

คําพิพากษาศาลฎีกาที่ 1350/2563

เรื่อง ฆ่าผู้อื่นโดยบันดาลโทสะ ผู้มีอํานาจจัดการแทนผู้เสียหาย ผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม  การยื่นคําร้องขอค่าสินไหมทดแทน  ข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย

ป.อาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 72 

ป.วิ อาญา มาตรา  5 (2), 30, 44/1, 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 215 และ 225

   ขณะนางสาว จ. อยู่กินฉันสามีภริยากับจําเลย นางสาว จ. คบหาฉันชู้สาวกับผู้ตาย เป็นเหตุให้จําเลยหึงหวงและทะเลาะกันแล้วแยกกันอยู่กับนางสาว จ. ไม่ได้อยู่กันฉันสามีภริยากันอีก แต่นางสาว จ. ยังมาหาเด็กชาย ณ. บุตรชายที่พักอาศัยอยู่กับจําเลยเป็นประจํา วันเกิดเหตุจําเลยเห็นรถผู้ตายโดยบังเอิญจึงขับรถตามรถผู้ตายไปก็เพื่อต้องการจะพาบุตรชายไปดูว่านางสาว จ. นั่งอยู่ในรถผู้ตายหรือไม่ ไม่ใช่จําเลยตามไปหาเรื่องหรือจะไปทําร้ายผู้ตาย    เมื่อผู้ตายเห็นรถจําเลยจอดอยู่จึงขับรถมาจอดเทียบข้างรถจําเลยแล้ว

จําเลยพูดกับผู้ตายว่ามึงยังไม่เลิกยุ่งกับเมียกูอีกหรือ ลูกโตกันหมดแล้ว ก็เป็นการพูดในทํานองขอร้องให้ผู้ตายเลิกคบหากับนางสาว จ. และให้เห็นแก่บุตรของจําเลยกับนางสาว จ. ซึ่งโตแล้ว แต่ผู้ตายกลับพูดด้วยถ้อยคําหยาบคายว่าจะเลิกยุ่งทําไม เมียมึงเย็ดมันดี ซึ่งเป็นการพูดต่อหน้าบุตรชายของจําเลยที่เกิดกับนางสาว จ. ด้วยคําพูดของผู้ตายเช่นนั้น เป็นการเย้ยหยันและดูหมิ่นเหยียดหยามศักดิ์ศรีของจําเลยอย่างรุนแรง จึงเป็นการข่มเหงจิตใจจําเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม และการที่ผู้ตายคบหากับนางสาว จ. มาตั้งแต่ขณะนางสาว จ. อยู่กินฉันสามีภริยากับจําเลย ถือว่าจําเลยถูกกดขี่ข่มเหงต่อเนื่องมาโดยตลอด เมื่อจําเลยได้ยินคําพูดของผู้ตายดังกล่าว ทําให้ไม่อาจอดกลั้นโทสะไว้ได้จึงใช้ป์นยิงผู้ตายไปในทันทีทันใด กรณีย่อมเป็นการกระทําโดยบันดาลโทสะ จึงเลยจึงมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยบันดาลโทสะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา  72 ซึ่งศาลจะลงโทษจําเลยน้อยกว่าที่กฎหมายกําหนดเพียงใดก็ได้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังเป็นที่ยุติว่าผู้ตายมีส่วนก่อให้จําเลยกระทําความผิด ผู้ตายจึงไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัยสําหรับความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตามฟ้อง โจทก์ร่วมซึ่งเป็นภริยาของผู้ตายย่อมไม่มีอํานาจจัดการแทนผู้ตายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 5 (2) และไม่มีสิทธิยื่นคําร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 30   ปัญหาว่าจําเลยต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ภริยาผู้ตายที่ยื่นคําร้องขอให้จําเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือไม่ แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา แต่ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอํานาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 215 และ 225 เมื่อข้อเท็จจริงที่ฟังได้ว่าผู้ตายมีส่วนก่อให้เกิดความเสียหายโดยมีส่วนก่อให้จําเลยกระทําความผิด ก็เป็นข้อเท็จจริงที่จะนํามาประกอบดุลยพินิจในการกําหนดค่าสินไหมทดแทนเท่านั้น ไม่ทําให้สิทธิของผู้เสียหายที่จะขอให้จําเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหมดไป

 

 

 

ไม่มีความคิดเห็น: