จำเลยได้รับการติดต่อเสนอขายรถที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานฉ้อโกงโดยใช้อุบายหลอกลวงขอเช่ารถ แล้วนำไปขาย นาย ม. และพวก หลอกเช่ารถจากนาย จ. ซึ่ง ส.ต.อ. ป นำมาฝากให้เช่าเพื่อนำไปขายต่อ นาย ม. โทรศัพท์ติดต่อจำเลยเพื่อเสนอขายรถให้จำเลย นัดดูรถที่สถานีบริการน้ำมันที่เกิดเหตุ จำเลยเบิกความว่า นาย ม. เสนอขายรถกระบะโตโยต้า ยี่ฮ้อวีโก้ ปี ๒๐๐๘ ราคา ๒๕๐,๐๐๐ บาท นัดดูรถที่สถานีน้ำมันบางจาก สายเลี่ยงเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เห็นได้ว่า จำเลยมีอาชีพรับซื้อขายรถมือสอง การได้รับแจ้งเพื่อเสนอขายรถที่มีอายุการใช้งานไม่ถึงปี ในราคาต่ำกว่าราคาในท้องตลาด และนัดดูรถในสถานที่ที่ไม่ใช่สถานที่ทำการซื้อขายรถโดยทั่วไปและเป็นเวลาวิกาล เป็นเรื่องผิดปกติ สำหรับผู้มีอาชีพซื้อรถมือสอง พฤติการณ์ติดต่อเสนอขายแบบเร่งรีบ นัดส่งมอบกันในยามวิกาลซึ่งไม่ใช่ภูมิลำเนาของทั้งสองฝ่าย น่าเชื่อว่าจำเลยทราบว่ารถคันนี้ได้มาจากการกระทำความผิดฐานฉ้อโกง รถคันดังกล่าวใช้งานมาได้ไม่กี่เดือน สภาพยังใหม่มีราคาไม่ต่ำกว่า ๖๐๐,๐๐๐ บาท ตามราคาอ้างอิงรถมือสอง จำเลยที่มีอาชีพค้าขายรถมือสองย่อมต้องทราบดีว่า ราคาดังกล่าวผิดปกติเพราะราคาต่ำกว่าในท้องตลาดมาก แต่กลับมาดูรถในสถานที่ห่างไกลที่พักจำเลย ทั้งเป็นเวลากลางคืน หากเป็นการซื้อขายกันอย่างปกติ จำเลยที่มีอาชีพเกี่ยวการซื้อขายรถ ไม่มีเหตุต้องนัดเจอกันในเวลาและสถานที่ดังกล่าว โดยไม่ได้ให้ความสำคัญในการตรวจสอบที่มาที่ไปของรถว่าได้มาอย่างไร กรณีดังกล่าวได้มีการซื้อขายตกลงกันมาแต่ต้นแล้ว หาใช่เพียงนัดเพื่อมาดูรถดังที่จำเลยอ้างไม่ ส่วนที่จำเลยอ้างว่าจะกลับบ้านที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จึงแวะดูเพราะเป็นทางผ่าน ก็ไม่มีเหตุผลน่ารับฟัง เพราะบ้านจำเลยมีระยะไกลเช่นนั้น ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเดินทางในเวลากลางคืน การที่จำเลยและภรรยาถือเงินมาด้วยจำนวน ๑๕๐,๐๐๐ บาท น่าเชื่อว่าเตรียมมาเพื่อซื้อขายรถ ข้ออ้างว่ารถดังกล่าวไม่ใช่รถรุ่นที่จำเลยต้องการ จำเลยมีอาชีพซื้อขายรถย่อมต้องการกำไรจากส่วนต่างของรถ รถคันดังกล่าวมีราคาส่วนต่างมาก ข้ออ้างจำเลยที่ว่าจะไม่ซื้อจึงเป็นเพียงเงื่อนไขต่อรองราคามากกว่า เชื่อว่าจำเลยได้มีการต่อรองราคาและซื้อขายรถคันดังกล่าวกับนาย ม กับพวก มาก่อน แล้วส่งมอบรถกัน โดยขณะเกิดเหตุยังไม่มีการจ่ายเงินหรือส่งมอบรถ เจ้าพนักงานจับกุมพวกจำเลยได้ ส่วนจำเลยที่เคยรับราชการเป็นตำรวจมาก่อนย่อมไหวตัวทัน จึงรีบวิ่งกลับขึ้นรถแล้วพยายามหลบหนี แต่ถูกจับกุมเสียก่อน จำเลยได้มีการตกลงซื้อขายรถคันดังกล่าวอันได้มาจากการกระทำผิดฐานฉ้อโกงแล้ว แต่กระทำการไม่ตลอด เป็นความผิดฐานพยายามรับของโจร ที่ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องนั้นไม่ต้องด้วยความเห็นศาลฏีกา พิพากษากลับให้บังคับตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น(ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกตาม ปอ มาตรา ๓๕๗วรรคแรก,๘๐ จำคุก ๓ ปี คืนเงิน ๕๐,๐๐๐ บาทแก่เจ้าของ คำขอและข้อหาอื่นให้ยก คำพิพากษาฏีกา ๕๑๗๙/๒๕๕๘
ข้อสังเกต ๑. เมื่อมีการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ กรรโชก รีดเอาทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ฉ้อโกง ยักยอก เจ้าพนักงานยักยอก แล้วมีบุคคลหนึ่งบุคคลใดช่วยซ่อนเร็น ช่วยจำหน่าย พาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการอื่นใดซึ่งทรัพย์ที่เกิดจากการกระทำผิดดังกล่าว ผู้นั้นกระทำความผิดฐานรับของโจร
๒. การใช้อุบายหลอกลวงขอเช่ารถโดยในใจจริงไม่มีเจตนาที่จะเช่ารถคันดังกล่าวแต่เป็นกลอุบายในการหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความจริงอันเป็นเท็จว่า จะขอเช่ารถเช่าเพื่อนำไปใช้ซึ่งในใจจริงไม่มีเจตนาที่จะเช่ารถไปเพื่อนำไปใช้ แต่มีเจตนาที่จะนำรถจากผู้ให้เช่าเพื่อไปขายต่อ อันเป็นการกระทำการโดยทุจริตแสวงหาประโยชน์อันไม่ควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยใช้อุบายหลอกลวงว่าจะขอเช่ารถนำไปใช้ จนผู้ให้เช่าซึ่งเป็นผู้ถูกหลอกลวงหลงเชื่อยอมมอบรถให้แก่ผู้เช่าไป แล้วผู้เช่านำไปขาย อันเป็นการกระทำผิดฐานฉ้อโกงโดยใช้อุบายหลอกลวง ตาม ปอ มาตรา ๓๔๑ การกระทำดังกล่าวไม่ใช่เรื่องผิดสัญญาเช่าทรัพย์ในทางแพ่ง เพราะไม่มีเจตนาที่จะเช่ากันจริงๆ เพียงแต่เป็นแผนการในการหลอกลวงผู้เสียหายด้วยการแสดงข้อความจริงอันเป็นเท็จว่าต้องการเช่ารถ แต่ความจริงแล้วไม่มีเจตนาเช่ารถ แต่มีเจตนานำรถที่เช่าไปขายและโดยการหลอกลวงได้ไปซึ่งรถที่เช่า จึงเป็นการกระทำผิดทางอาญาฐานฉ้อโกง หาใช่ความรับผิดทางแพ่งเรื่องเช่าทรัพย์แต่อย่างใดไม่ และไม่ใช่เรื่องการครอบครองรถที่เช่าแล้วเบียดบังเอารถคันดังกล่าวเป็นของตนหรือผู้อื่นโดยเจตนาทุจริตอันป็นความผิดฐานยักยอกแต่อย่างใดไม่ เพราะการมอบทรัพย์ที่ให้เช่าไปอยู่ในความครอบครองของผู้เช่าเป็นเพราะหลงเชื่อในกลอุบายที่ทำขึ้นมาว่าต้องการเช่ารถ ทั้งๆที่ในใจจริงไม่มีเจตนาที่จะเช่ารถกันจริงๆแต่อย่างใดไม่ เมื่อไม่ใช่เรื่องที่มอบรถให้เช่าตามสัญญาเช่าแล้วมีเจตนาทุจริตเบียดบังยักยอกทรัพย์นั้นเป็นของตนเองหรือผู้อื่นโดยเจตนาทุจริตในภายหลังอันจะเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์แต่อย่างใดไม่
๓. พฤติการณ์ที่ทำให้เชื่อว่าการรับซื้อรถโดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดทางอาญาคือ
๓.๑จำเลยมีอาชีพซื้อขายรถมือสองย่อมน่าทราบราคารถรุ่นนี้ว่ามีราคาเท่าใด รถใช้งานไม่ถึงปีราคาซื้อขายในท้องตลาด ราคาไม่ต่ำกว่า ๖๐๐,๐๐๐บาท(ตามราคาอ้างอิงรถมือสอง) แต่มาซื้อขายในราคา ราคา ๒๕๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าในท้องตลาดมากเกินครึ่ง(ครึ่งหนึ่ง๓๐๐,๐๐๐บาท)
๓.๒ การนัดดูรถที่สถานีน้ำมันบางจาก สายเลี่ยงเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นการนัดดูรถในสถานที่ที่ไม่ใช่สถานที่ทำการซื้อขายรถโดยทั่วไปที่จำเลยทำการซื้อขาย ไม่ใช่การซื้อขายในการขายทอดตลาด หรือในท้องตลาด และก็ไม่ใช่การซื้อจากพ่อค้าที่ขายของชนิดนั้นอันจะได้รับการคุ้มครองตาม ปพพ มาตรา ๑๓๓๒
๓.๓เป็นการซื้อขายในยามวิกาล เป็นเรื่องผิดปกติ สำหรับผู้มีอาชีพซื้อรถมือสองที่ต้องทำการตรวจรถที่ผ่านการใช้งานมาแล้วอย่างละเอียดเพื่อตรวจหาตำหนิ รอยบุบ รอยชน ซึ่งจะทำให้ราคารถตกลง และการซื้อมาเพื่อขายต่อต้องนำมาซ่อมแซมซึ่งทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นย่อมทำให้ตัวรถมีราคาสูงขึ้น หากรถมือสองมีราคาแพง คนอาจไม่ซื้อแต่ไปซื้อรถมือหนึ่งแทนเพราะรถมือหนึ่งอาจดาวน์ในราคาต่ำ หรือไม่ต้องดาวน์ก็ได้ ซึ่งจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าซื้อรถมือสองที่ราคาเกือบเท่าราคารถมือหนึ่ง หรือมีราคาใกล้เคียงรถมือหนึ่ง ทั้งรอยบุบรอยชนอาจแสดงว่ารถอาจเกิดการพลิกคว่ำ อาจมีคนตาย ซึ่งคนบางคนอาจถือไม่ซื้อรถที่มีคนตายภายในรถ ดังนั้น การซื้อในเวลากลางคืนไม่สามารถทำการตรวจสอบได้อย่างละเอียด ทั้งการซื้อขายกันในเวลากลางคืน เมื่อเป็นรถมือสองก็ต้องลองขับ การลองขับในเวลากลางคืนน่าจะยุ่งยากกว่าการลองขับในเวลากลางวัน ทั้งสถานที่เกิดเหตุเป็นชานเมืองในต่างจังหวัดเวลากลางคืนรถวิ่งด้วยความเร็วสูงกว่าปกติ การนำรถมือสองไปลองจึงค่อนข้างอันตราย และก็ไม่ทราบว่าสภาพรถคันดังกล่าวดีหรือไม่อย่างไรสภาพเครื่องยนต์เป็นอย่างไรซึ่งการซื้อขายกันในเวลากลางคืนมีแต่ความยุ่งยาก การซื้อขายในเวลากลางคืนเป็นพิรุธน่าสงสัย
๓.๔ พฤติการณ์ติดต่อเสนอขายแบบเร่งรีบ นัดส่งมอบกันในยามวิกาลซึ่งไม่ใช่ภูมิลำเนาของทั้งสองฝ่าย โดยจำเลยมีภูมิลำเนาที่จังหวัดแม่สอด จังหวัดตาก แต่มาตกลงดูรถที่จังหวัดนครสวรรค์ในเวลากลางคืนย่อมมีพิรุธน่าสงสัย น่าเชื่อว่าจำเลยทราบว่ารถคันนี้ได้มาจากการกระทำความผิดฐานฉ้อโกง การที่มาดูรถในสถานที่ห่างไกลที่พักจำเลย ทั้งเป็นเวลากลางคืน หากเป็นการซื้อขายกันอย่างปกติ จำเลยที่มีอาชีพเกี่ยวการซื้อขายรถ ไม่มีเหตุต้องนัดเจอกันในเวลาและสถานที่ดังกล่าว โดยไม่ได้ให้ความสำคัญในการตรวจสอบที่มาที่ไปของรถว่าได้มาอย่างไร
๓.๕ กรณีดังกล่าวน่าเชื่อได้มีการซื้อขายตกลงกันมาแต่ต้นแล้ว หาใช่เพียงนัดเพื่อมาดูรถดังที่จำเลยอ้างไม่ ส่วนที่จำเลยอ้างว่าจะกลับบ้านที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จึงแวะดูเพราะเป็นทางผ่าน ก็ไม่มีเหตุผลน่ารับฟัง เพราะบ้านจำเลยมีระยะไกลเช่นนั้น ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเดินทางในเวลากลางคืน
๓.๖การที่จำเลยและภรรยาถือเงินมาด้วยจำนวน ๑๕๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นเงินจำนวนมากมาในเวลากลางคืนและเป็นการนำติดตัวมาในการเดินทางข้ามจังหวัดและเป็นเวลากลางคืน เงินดังกล่าวอาจนำภัยมาสู่ตัวได้ การพกเงินสดติดตัวมาด้วยจำนวนมากถึง ๑๕๐,๐๐๐ บาท มาในเวลากลางคืนถือผิดปกติ ที่พกเงินจำนวนมากเช่นนี้ โดยเป็นการพกข้ามจังหวัด ไม่ปรากฏว่าจะนำเงินดังกล่าวไปทำธุรกรรมอื่นได้น่าเชื่อว่ามีไว้เพื่อเตรียมนำมาซื้อขายรถรายนี้
๓.๗ข้ออ้างว่ารถดังกล่าวไม่ใช่รถรุ่นที่จำเลยต้องการ จำเลยมีอาชีพซื้อขายรถย่อมต้องการกำไรจากส่วนต่างของรถ รถคันดังกล่าวมีราคาส่วนต่างมาก ข้ออ้างจำเลยที่ว่าจะไม่ซื้อจึงเป็นเพียงเงื่อนไขต่อรองราคามากกว่า เชื่อว่าจำเลยได้มีการต่อรองราคาและซื้อขายรถคันดังกล่าวกับนาย ม กับพวก มาก่อน แล้วส่งมอบรถกัน โดยขณะเกิดเหตุยังไม่มีการจ่ายเงินหรือส่งมอบรถ เจ้าพนักงานจับกุมพวกจำเลยได้
๓.๘ ส่วนจำเลยที่เคยรับราชการเป็นตำรวจมาก่อนย่อมไหวตัวทัน จึงรีบวิ่งกลับขึ้นรถแล้วพยายามหลบหนี แต่ถูกจับกุมเสียก่อน จำเลยได้มีการตกลงซื้อขายรถคันดังกล่าวอันได้มาจากการกระทำผิดฐานฉ้อโกงแล้ว แต่กระทำการไม่ตลอด เป็นความผิดฐานพยายามรับของโจร
๓.๙ซื้อขายรถในราคาถูกกว่าราคาในท้องตลาด ส่อให้เห็นว่ารถอาจได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรืออาจเป็นรถที่ใช้ในการกระทำความผิดมาหรือเป็นรถที่เคยเกิดอุบัติเหตุแล้วมาทำการซ่อมแซม ยิ่งมาซื้อขายในเวลากลางคืนยิ่งต้องตรวจละเอียดมากกว่าปกติ เว้นเสียแต่ว่ารู้ว่าที่มาของรถได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฏหมายแล้วต้องการอาศัยความมืดเป็นฉากกำบังในการกระทำผิด ซื้อขายกันในสถานที่ที่ไม่ใช่สถานที่ทำการซื้อขายรถตามปกติ ตกลงซื้อขายกันในเวลากลางคืน ซึ่งทำให้ไม่สามารถตรวจสอบรถได้อย่างละเอียด การที่ ไม่ตรวจสอบที่มาที่ไปของรถว่าเป็นมาอย่างไรผิดวิสัยคนที่ทำการซื้อขายจะพึงกระทำโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีอาชีพนี้ด้วยแล้วต้องรอบคอบตรวจสอบที่มาที่ไปของรถเพื่อจะได้ไม่ไปซื้อรถที่ได้มาจากการกระทำความผิด ระยะทางระหว่างบ้านกับที่นัดมาดูรถไกลกันมาก ไม่น่าเชื่อว่าผ่านมาเพื่อมาดูรถพฤติการณ์ติดต่อเสนอขายแบบเร่งรีบ นัดส่งมอบกันในยามวิกาลซึ่งไม่ใช่ภูมิลำเนาของทั้งสองฝ่าย เป็นพิรุธน่าสงสัย
๓.๑๐.การกระทำสามารถกระทำได้ในเวลากลางวันแต่ไม่กระทำมากระทำในเวลากลางคืน อาศัยความมืดเป็นเครื่องกำบัง เป็นพิรุธน่าสงสัย เหมือนกรณีเคลื่อนย้ายไม้หวงห้ามที่อ้างเป็นไม้เรือนเก่าที่รื้อมาจากบ้าน แต่มีการรื้อมาเก็บไว้ห่างจากถนนใหญ่ ๑๕ เมตร มีการเอาฟางมาปิด และขนย้ายกันในเวลากลางคืน พฤติการณ์เหล่านี้ส่อพิรุธว่าทำไมไม่ขนย้ายในเวลากลางวัน กรณีนี้ก็เช่นกันนัดดูรถในเวลากลางคืนในปั้มน้ำมันที่ไม่ใช่สถานที่ที่ตนทำการค้าขาย ความมืดทำให้ไม่สามารถตรวจดูลายละเอียดของรถได้ถี่ถ้วนว่าสภาพรถเป็นอย่างไร การซื้อรถมือสองย่อมต้องอาศัยการตรวจดูมากกว่าการซื้อรถมือหนึ่ง การตรวจดูในเวลากลางคืนอาจไม่พบตำหนิของรถได้ การตรวจในเวลากลางวันย่อมสามารถตรวจสอบได้ถ้วนถี่กว่า ทั้งการซื้อขายรถมือสองอาจต้องมีการนำรถไปขับขี่ การขับรถในเวลากลางคืนซึ่งมืดย่อมขับยากกว่าในเวลากลางวันที่มีแสง ทัศนะวิสัยการมองก็ลดลง และยิ่งเป็นในต่างจังหวัดด้วยแล้วรถวิ่งค่อนข้างเร็วหรือเร็ว อุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นได้ง่าย การนัดเจรจาตกลงซื้อขายกันตอนกลางคืนมีพิรุธน่าสงสัย
๓.๑๑ ศาลฏีกาวินิจฉัยว่า เงิน ๕๐,๐๐๐ บาทที่ใช้ในการซื้อรถไม่ใช่ทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้ใช้ในการกระทำความผิด จึงไม่ริบเงินดังกล่าว เพราะศาลฏีกาฟังข้อเท็จจริงว่ายังไม่มีการส่งมอบเงินกัน ในความเข้าใจส่วนตัวเข้าใจว่าศาลฏีกาคงมองว่า ความผิดฐานรับของโจรอยู่ที่การช่วยซ่อนเร็น ช่วยจำหน่าย พา เอาไปเสีย ซื้อ หรือรับจำนำทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์. วิ่งราวทรัพย์ กรรโชก รีดเอาทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ฉ้อโกง ยักยอก เจ้าพนักงานยักยอก แล้วมีบุคคลหนึ่งบุคคลใดช่วยซ่อนเร็น ช่วยจำหน่าย พาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการอื่นใดซึ่งทรัพย์ที่เกิดจากการกระทำผิดดังกล่าว ดังนั้นศาลฏีกาจึงไม่ริบเงินดังกล่าว ด้วยความเครารพในคำพิพากษาศาลฏีกา ในความเห็นส่วนตัวเห็นว่า เงินจำนวนดังกล่าว เป็นเงินที่นำมาซื้อขายรถที่เกิดจากการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงทรัพย์ จึงเป็นทรัพย์ “ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้” ในการกระทำความผิด เพราะหากไม่มีเงินแล้วจะมีการซื้อขายได้อย่างไร หรือเจตนาลึกๆของศาลฏีกานำกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับโดยเมื่อเสนอสนองตรงกันการซื้อขายเกิดขึ้น การส่งมอบการชำระราคาหาใช่สาระสำคัญในการซื้อขาย กรรมสิทธิ์ในสัญญาซื้อขายโอนไปยังผู้ซื้อตั้งแต่ขณะเมื่อได้ทำสัญญาซื้อขายกัน ปพพ มาตรา ๔๕๘ ซึ่งการซื้อขายรถยนต์เป็นการซื้อขายสังหาริมทรัพย์ราคากว่า๒๐,๐๐๐ บาทขึ้นไปตาม ปพพ มาตรา ๔๕๖ วรรคท้าย เมื่อมีการชำระหนี้บางส่วนก็สามารถฟ้องร้องบังคับคดีได้ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อศาลฏีกามีคำพิพากษามาแล้วก็เคารพในคำพิพากษาดังกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น