คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 374/2562
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 หมิ่นประมาท
ข้อมูลย่อ โจทก์และจำเลยต่างขายสินค้าเสริมความงาม เช่น ครีมบำรุงผิว สบู่ ทางอินเตอร์เน็ตผ่านโปรแกรมเฟซบุ๊ก เมื่อเดือนเมษายน 2558 จำเลย พิมพ์ข้อความที่โจทก์อ้างว่าหมิ่นประมาทโจทก์ซึ่งเมื่อพิเคราะห์ถึงข้อความ ที่จำเลยพิมพ์ในเฟซบุ๊กที่ว่า" ...หรือว่ามึงเอาครีมเก่าเน่าๆ ไปขายให้ลูกค้า แล้วไม่มีใครซื้อของ ของมึงนัง พ. ..." ซึ่งอ่านแล้วข้อความดังกล่าว ก็เป็นเพียงการตั้งคำถามถึงโจทก์ว่า โจทก์ขายครีมเก่าเน่าๆ หรือไม่ มิได้ยืนยันว่า โจทก์ขายครีมเก่าเน่า ๆ อันเป็นการยืนยันข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโจทก์ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็น ความผิดฐานหมิ่นประมาทรายละเอียด โจทก์ฟ้องและแก้ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 (ที่ถูกพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550) มาตรา 14 (1) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 328 ให้จำคุก 6 เดือน และปรับ 30,000 บาท ทางนำสืบ ของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว คงจำคุก 4 เดือน และปรับ 20,000 บาท จำเลยเป็นพนักงานราชการกรมป่าไม้ ไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน จึงเห็นสมควร ให้โอกาสจำเลยได้กลับตนเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษา ศาลชั้นต้น จำเลยฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า โจทก์มีอาชีพขายสินค้า เกี่ยวกับการเสริมความงาม เช่น ครีมบำรุงผิวหน้า ผิวพรรณ สบู่ ที่บ้านและ ทางอินเตอร์เน็ตผ่านโปรแกรมเฟซบุ๊ก โดยใช้ชื่อในโปรแกรมเฟซบุ๊กว่า "M" เมื่อเดือนธันวาคม 2555 จำเลยซึ่งใช้ชื่อในโปรแกรมเฟซบุ๊กว่า "N" ได้สอบถาม ข้อมูลสินค้าและวิธีการขายจากโจทก์ ต่อมาจำเลยขายสินค้าประเภทเดียวกับโจทก์ โดยใช้ชื่อในโปรแกรมเฟซบุ๊กว่า "ครีม..." คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยว่า จำเลยกระทำความผิดฐาน หมิ่นประมาทหรือไม่ โดยจำเลยฎีกาว่า การที่จำเลยพิมพ์ข้อความในโปรแกรม เฟซบุ๊กว่า พ. ..."นั้น ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทเพราะการกระทำอันเป็น ความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นนั้น จะต้องเป็นการใส่ความผู้อื่นโดยถ้อยคำหรือ ข้อความดังกล่าว ข้อความที่จำเลยกล่าวเป็นเพียงการโต้ตอบกับโจทก์ จำเลย ไม่ได้ยืนยันว่าโจทก์เอาครีมเก่าเน่าๆ ไปขายแต่อย่างใดนั้น เห็นว่า กรณีที่ เกิดขึ้นเนื่องจากโจทก์และจำเลยต่างขายสินค้าเสริมความงาม เช่น ครีมบำรุงผิว สบู่ ทางอินเตอร์เน็ตผ่านโปรแกรมเฟซบุ๊ก เมื่อเดือนเมษายน 2558 จำเลย พิมพ์ข้อความที่โจทก์อ้างว่าหมิ่นประมาทโจทก์ซึ่งเมื่อพิเคราะห์ถึงข้อความ ที่จำเลยพิมพ์ในเฟซบุ๊กที่ว่า" ...หรือว่ามึงเอาครีมเก่าเน่าๆ ไปขายให้ลูกค้า แล้วไม่มีใครซื้อของ ของมึงนัง พ. ..." ซึ่งอ่านแล้วข้อความดังกล่าวก็เป็นเพียง การตั้งคำถามถึงโจทก์ว่า โจทก์ขายครีมเก่าเน่าๆ หรือไม่ มิได้ยืนยันว่า โจทก์ขายครีมเก่าเน่า ๆ อันเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงซึ่งเป็นความผิดฐาน หมิ่นประมาทโจทก์ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของฟังขึ้น พิพากษากลับเป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น