ค้นหาบล็อกนี้

วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2560

“ดูหมิ่น”

๑.พูดว่า “ เย็ดโคตรแม่มึง” ต่อหน้าคน ๕๐ คน ผิด ป.อ. มาตรา ๓๘๘ คำพิพากษาฏีกา ๑๐๖๙/๒๕๐๖
๒. เรียกขุนโพชน์ว่า “อ้ายถม อ้ายขุนโพชน์” เป็นคำด่าไม่ใช่คำลามกอนาจาร เป็นคำด่าไม่ใช่คำลามกอนาจาร คำพิพากษาฏีกา ๘๗๒/๒๔๖๔
๓.คำว่า “ชาติหมา ดอกทอง” เป็นคำด่าไม่ใช่คำลามกอนาจาร คำพิพากษาฏีกา ๕/๒๔๗๔
๔.”อ้ายหน้าด้านเอาของเขาไปแล้วไม่รับ อ้ายชาติหมาจะพลิกแผ่นดิน มึงไม่รับ กูจะเอาเข้าตาราง “ เป็นการหมิ่นประมาทซึ่งหน้า(ตามกฎหมายเก่า) คำพิพากษาฏีกา ๑๒๗๓/๒๔๗๓
๕. หมาสี่แม่ เป็นภาษาอีสานหมายถึง หมาเย็ดแม่ เป็นการหมิ่นประมาท คำพิพากษาฏีกา ๙๑๒/๒๔๗๖
๖.อีดอกทอง เป็นการหมิ่นประมาท ๑๑๑๔/๒๔๗๙
๗.”อ้ายกรรมการอำเภอหมาๆ แปลภาษาอังกฤษก็ไม่ได้ หมาเย็ดแม่ “ เป็นหมิ่นประมาท คำพิพากษาฏีกา ๔๑๑๓/๒๔๘๐
๘.”เป็นสุนัขเป็นลิง เอาสุนัขขึ้นนั่งแท่นหางหมางอกแล้ว “ เป็นหมิ่นประคำพิพากษาฏีกา ๓๑๑/๒๔๙๑
๙.”เมียผู้ใหญ่บ้านนี้แต่งตัวสวย น่าอยากล่ำสักที” หมายความว่า แต่งตัวสวยอยากร่วมประเวณีด้วย ดูหมิ่นซึ่งหน้า คำพิพากษาฏีกา ๒๗๒/๒๕๐๕
๑๐.”อีหมาไปควักเอากระดูกพ่อกระดูกแม่มึงเจ็ดชั่วโคตรมาสู้กับกู อีหน้าหมู อีหน้าหมา เป็นการดูหมิ่นซึ่งหน้าแล้ว คำพิพากษาฏีกา ๒๐๘๖/๒๕๑๑
๑๑.”ออกมาซิกูจะจับหีมึงให้มึงดู มึงไปเล่าซิว่ากูจับหีมึง” เป็นการดูหมิ่นซึ่งหน้า คำพิพากษาฏีกา ๔๓๙/๒๕๑๕
๑๒.”ไอ้เหี้ยไอ้สัตว์” เป็นการดูหมิ่น คำพิพากษาฏีกา ๔๔๕/๒๕๒๒
๑๓.” อ้ายชั้นมีมีทนายความมาหากูหรือ ลูกกระโปกกูไม่หด อ้ายและลุกนางจักรหรือจะหาอ้ายแจะเป็นอันธพาล ก็เอาซิโว้ย อ้ายแจะไม่ใช่หญ้าปากคอกของคน จะเอาอย่าง ไงก้เอาซี้โว้ย” เป็นถ้อยคำหยาบคาบไม่สุภาพ ไม่มีข้อความเป็นการดูหมิ่น แต่เป็นถ้อยคำที่ทำให้ได้รับความเดือดร้อนรำคาญ ผิดตามมาตรา ป.อ. ๓๙๓ คำพิพากษากี๓๘๘/๒๕๐๕
๑๔.”อีหน้าเลือดไม่ปราณีคนจน” เป็นคำหยาบ ยังไม่เป็นการหมิ่นประมาท คำพิพากษาฏีกา ๑๗๖/๒๔๖๔
๑๕. ปิดประตูเสียงดัง ผู้เสียหายว่าไม่มีมารยาท จำเลยพูดกับผู้เสียหายที่เป็นหญิงว่า กูไม่ได้ขึ้นคล่อมมึงนี่” เป็นคำแดกดันไม่สุภาพ เป็นคำหยาบช้าผิดดูหมิ่น คำพิพากษาฏีกา ๑๒๑/๒๔๖๔
๑๖.”บักสี่กูจะเตะปากมึง” ไม่เป็นหมิ่นประมาท คำพิพากษาฏีกา ๑๔๒/๒๔๗๗
๑๗. สาปแช่งว่า “ ให้ตายไวๆ” ไม่เป็นคำสบประมาทอันเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท คำพิพากาฏีกา ๒๑/๒๔๘๐
๑๘.ชี้หมาแมวให้กรรมการสวนครัวและเลี้ยงสัตว์ดูแล้วพูดว่า “ นั้นคือสัตว์เลี้ยง คือหมาและแมว ถึงกินไม่ได้ก็เลี้ยงเอาไว้” เป็นคำประชดประชันไม่เป็นหมิ่นประมาท คำพิพากษาฏีกา ๗๗๔/๒๔๘๗
๑๙.ว่าทนายขณะว่าความว่า “ ถามพยานอย่างโง่ ถามอย่างนั้นไม่ได้ ไม่เกี่ยวประเด็น เป็นเทศมนตรีไม่เห็นดีอย่างไร เป็นคำที่คนไม่พูดถึงแต่ยังไม่เป็นหมิ่นประมาท คำพิพากษาฏีกา ๑๙๐๒/๒๔๙๒
๒๐.”ถ้าไม่ไปเดี๋ยวเตะลงกุฏิให้หมด” เป็นการกล่าวถ้อยคำที่คนทั่วไปถือว่าเป็นบุคคลที่ควรเคารพ เป็นคำไม่สุภาพขมขู่ เป็นการดูหมิ่น คำพิพากษาฏีกา ๕๔๑/๒๕๐๔
๒๑.”ถ้าไม่เห็นแก่ผ้าเหลืองจะเตะให้ตกกุฏิหมดเลย” เป็นการดูหมิ่นวึ่งหน้า คำพิพากษาฏีกา ๑๗๖๕/๒๕๐๖
๒๒.ถาม ป.ว่ามีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับโจทก์หรือไม่ เป็นการคาดคะเนของจำเลย ไม่ใช่การยืนยันข้อเท็จจริงที่ทำให้เสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชัง ไม่ผิดดูหมิ่นซึ่งหน้าหรือหมิ่นประมาท คำพิพากษาฏีกา ๒๑๘๐/๒๕๓๑
๒๓. ไม่พอใจที่นายจ้างไม่ให้รางวัลจึงพูดว่า “เป็นนายจ้างใช้ไม่ได้ พูดจากลับกรอก เดี๋ยวให้เดี๋ยวไม่ให้” เป็นคำไม่สุภาพ ไม่เป็นการดูหมื่น คำพิพากษาฏีกา ๙๕/๒๕๔๐
๒๔. “ประธานใช้ครูอย่างขี้ข้า” แม้คำว่า “ ขี้ข้า” เป็นคำไม่สุภาพ ในเมื่อคำนี้จำเลยหมายถึงตัวจำเลยและครูในโรงเรียนที่ถูกใช้งาน ไม่ได้หมายถึงผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ใช้งาน ไม่เป็นการดูหมิ่น คำพิพากษาฏีกา ๒๘๖๗/๒๕๔๗
๒๕.”อีเหี้ย อีสัตว์ อีควาย มึงคิดว่าเมียกูกินเงินมึงหรือไง” เป็นการเปรียบผู้เสียหายเป็นสัตว์เลื่อยคลาน และว่าภรรยาจำเลยเอาเงินกลุ่มแม่บ้านไปใช้ในการส่วนตัว เป็นการดูหมิ่น คำพิพากษาฏีกา ๕๒๕๗/๒๕๔๘
๒๖.” ให้ไปบอกอ้ายเหี้ย อีเหี้ย นายของมึงสองคน อย่ามาว่าอะไรกับกูมากนัก ประเดียวกูทนไม่ได้จะเอาเรื่องอีก “ เป็นการฝากไปบอกผู้เสียหายเป็ยนการส่วนตัว ไม่ปรากฏว่าได้กล่าวกับบุคคลอื่นอีก ไม่ใช่ดูหมิ่นด้วยก็ดแม่ารโฆษณา คำพิพากษาฏีกา ๑๐๕๓/๒๕๐๗
๒๗.”ไอ้เหี้ย ไอ้สัตว์ ไอ้ทองสุขโกงบ้านโกงเมือง” คำว่าไอ้เหี้ยไอ้สัตว์เป็นการเหยียดหยาม คำว่า “ ไอ้ทองสุขโกงบ้านโกงเมือง” หมายถึงเป็นข้าราชการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ เบียดบังหรือยักยอกประโยชน์ทางราชการมาเป็นของตนหรือของผู้อื่น เป็นการหมิ่นประมาท คำพิพากษาฏีกา ๔๔๕/๒๕๒๒

ข้อสังเกต ๑.คำว่า เย็ดแม่มึง เป็นคำไม่สุภาพ เป็นคำพูดที่แสดงการลามกอย่างอื่นตาม ป.อ. มาตรา ๓๘๘
๒. การเรียกชื่อว่า “อ้ายถม อ้ายขุนโพชน์” เป็นคำด่าไม่ใช่คำลามกอนาจาร เป็นคำด่าที่ไม่ให้เกียรติกัน ไม่เป็นถ้อยคำลามกอนาจารตาม ป.อ. มาตรา ๓๘๘
๓.คำว่า “ชาติหมา ดอกทอง” เป็นคำด่าไม่ใช่คำลามกอนาจาร ตาม ป.อ. มาตรา ๓๘๘ โดยคำว่า “ ดอกทอง” เป็นคำด่า หมายถึงหญิงใจง่ายในทางประเวณี ส่วนคำว่า “ ชาติหมา” เป็นการเปรียบเปรยว่ามีชาติกำเนิดเป็นหมา เป็นการเปรียบเปรยทำนองว่า ผู้เสียหายมีชาติกำเนิดเป็นสุนัขที่ส่ำส่อนร่วมประเวณีกันไม่เลือกไม่ว่าเป็นลูกเป็นแม่ แม้ไม่ใช่ถ้อยคำลามกอนาจารตาม ป.อ. มาตรา ๑๘๘ แต่ก็เป็นการดูหมิ่นซึ่งหน้า
๔. คำว่า ”อ้ายหน้าด้านเอาของเขาไปแล้วไม่รับ อ้ายชาติหมาจะพลิกแผ่นดิน มึงไม่รับ กูจะเอาเข้าตาราง “ เป็นคำพูดทำนองว่า ผู้เสียหายเอาของคนอื่นไปแล้วไม่ยอมรับว่าเอาไปเท่ากับกล่าวอ้างว่า ลักทรัพย์ของบุคคลอื่น คำว่า “ พลิกแผ่นดิน” หมายความว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบหรือวิธีการปกครองแผ่นดิน เท่ากับล้มล้างตัวบทกฎหมายหรือเปลี่ยนแปลงการปกครอง จึงหมายความว่าผู้เสียหายคิดจะเปลี่ยนแปลงการปกครองในแผ่นดิน หรือเป็นกบฏ ถ้อยคำดังกล่าวจึงเป็นการดูหมิ่นทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชัง เมื่อพูดกับบุคคลที่สามจึงเป็นการใส่ความผู้เสียหายต่อบุคคลที่สามอันเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
๕.หมาสี่แม่ เป็นภาษาอีสานหมายถึง หมาเย็ดแม่ มีความหมายทำนองว่า สุนัขร่วมประเวณีกับผู้เสียหาย ซึ่งคนทั่วไปไม่กระทำกันที่จะสมสู่กับสุนัข คนที่ทำคือคนที่มีความผิดปกติทางจิตใจ จึง เป็นถ้อยคำดูหมิ่น เมื่อพูดต่อหน้าบุคคลที่สามจึง เป็นการหมิ่นประมาท
๖.”อ้ายกรรมการอำเภอหมาๆ แปลภาษาอังกฤษก็ไม่ได้ หมาเย็ดแม่ “ คำว่า แปลภาษาอังกฤษก็ไม่ได้ หมายความว่า ไม่มีความรู้ความสามารถ ส่วนคำว่า หมาเย็ดแม่ คือ การร่วมประเวณีกับสุนัขโดยถูกสุนัขเป็นฝ่ายกระทำ ซึ่งปกติคนทั่วไปไม่กระทำกัน เป็นการดูหมิ่น เมื่อใส่ความต่อบุคคลที่สามจึงเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
๗.มีทนายความมาหากูหรือ ลูกกระโปกกูไม่หด อ้ายและลุกนางจักรหรือจะหาอ้ายแจะเป็นอันธพาล ก็เอาซิโว้ย อ้ายแจะไม่ใช่หญ้าปากคอกของคน จะเอาอย่าง ไงก้เอาซี้โว้ย” คำว่า “ลูกกระโปกกูไม่หด” เป็นถ้อยคำหยาบคาบไม่สุภาพ มีความหมายทำนองไม่กลัว แม้อีกฝ่ายหนึ่งจะหาทนายผู้กฎหมายมาในขณะที่ตนไม่มีทนายตนก็ไม่กลัว คำว่า “ หญ้าปากคอก” หมายความว่า ง่าย ไม่มีอะไรยุ่งยาก จึงไม่มีข้อความเป็นการดูหมิ่น แต่เป็นถ้อยคำที่ทำให้ได้รับความเดือดร้อนรำคาญ ผิดตามมาตรา ป.อ. ๓๙๓
๘. คำว่า เป็นสุนัขเป็นลิง เอาสุนัขนั่งแท่นหางงอกแล้ว “ นั้น คำว่า “ เป็นสุนัขเป็นลิงเป็นสัตว์เดรัจฉานเมื่อถูกนำมานั่งบนแท่นแล้วหางงอกออกมาเหมือนเอาคนขึ้นสู่ตำแหน่งแล้วลืมตัวทั้งที่ก่อนหน้านี้เป็นคนมีฐานะต่ำต้อย
๙.คำว่า เมียผู้ใหญ่บ้านนี้ แต่งตัวสวยดี น่าอยากก่ำสักที หมายความว่า แต่งตัวสวยและยั่วยวนทำให้เกิดความต้องการทางเพศอยากร่วมประเวณีด้วย ทำนองว่าผู้เสียหายแต่งตัวโป๊เห็นแล้วอยากร่วมประเวณีด้วย
๑๐.คำว่า “อีหมาไปควักเอากระดูกพ่อกระดุกแม่มึงมาเจ็ดชั่วโคตรมาสู้กับกู อีหน้าหมูอีหน้าหมา เป็นการเปรียบผู้เสียหายเป็นสัตว์เดรัจฉานไม่สามารถสู้จำเลยได้ ต้องกลับไปเอากระดูกบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วถึงเจ็ดชั่วโคตรมาสู้ถึงจะสู้กับตนได้ เท่ากับจำเลยมีความสามารถไม่ทัดเทียมสู้จำเลยไม่ได้
๑๑.คำว่า “ ออกมาซิกูจะจับหีมึง มึงไปเล่าใหม่ซิว่ากูจับหีมึง “ เป็นคำพุดทำนองว่าสามารถล่วงเกินผู้เสียหายในทางเพศโดยใช้มือจับอวัยวะผู้เสียหาย ซึ่งไม่ใช่ภรรยาของจำเลยได้ซึ่งเมื่อไม่ใช่สามีผู้เสียหายสามารถจับอวัยวะเพศผู้เสียหายได้ส่อให้เห็นว่าจำเลยมีความสัมพันธ์ในทางเพศกับผู้เสียหายทั้งที่จำเลยไม่ใช่สามีผู้เสียหายและผู้เสียหายไม่ได้แต่งงานกับจำเลย ส่อแสดงให้เห็นว่าผู้เสียหายมีความประพฤติเสื่อมเสียในทางเพศที่ยอมให้คนที่ไม่ใช่สามีล่วงเกินในทางเพศ
๑๒.คำว่า “ จะเตะปากเดี๋ยวนี้” ไม่ใช่ถ้อยคำดูหมิ่น ส่วนคำสาปแช่ง ว่า “ ให้ตายเร็วๆ” ยังไม่เป็นการดูหมิ่นเพราะไม่ได้ทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชังแต่อย่างไร เป็นเพียงการแช่งเพื่อให้เป็นไปตามที่ตนต้องการเท่านั้น
๑๓.นี้คือสัตว์เลี้ยง คือ หมาและแมว ถึงกินไม่ได้ก็เลี้ยงเอาไว้ เป็นถ้อยคำประชดประชันแดกดัน ว่าแม้ทานไม่ได้แต่ก็สามารถเลี่ยงไว้เป็นเพือนได้
๑๔.คำว่า “ ถามพยานอย่างโง่ ถามอย่างนั้นไม่ได้ ไม่เกี่ยวแก่ประเด็น เป็นเทศมนตรีไม่เห็นดีอะไร “ เป็นคำที่คนทั่วไปไม่น่าตำหนิในการถามความของทนาย ทำนองว่าทนายว่าความไม่เป็น แต่ยังไม่ถึงเป็นถ้อยคำหมิ่นประมาท
๑๕.คำว่า “ ถ้าไม่ลงเดี๋ยวเตะลงกุฏิให้หมด” เป็นคำพูดที่ไม่สมควรพุดกับพระภิกษุสงฆ์เป็นการไม่ให้เกียรติ์ ไม่สุภาพเป็นการข่มขู่ และเป็นคำพุดที่ทำให้คนทั่วไปดูหมิ่นเกลียดชังพระรูปนั้นว่าไปทำอะไรไม่ดีหรือถึงฆารวาสจะใช้เท้าซึ่งเป็นของต่ำเตะทั้งคนที่เป็นพระที่เป็นเคารพของคนทั่วไป จึงเป็นการดูหมิ่นแล้ว
๑๖.”ถ้าไม่เห็นแก่ผ้าเหลืองจะเตะให้ตกกุฏิ ก็มีความหมายทำนองเดียวกับข้อสังเกตที่ ๑๕
๑๗.คำว่า “ประธานใช้ครูอย่างขี้ข้า” นั้นคำว่า “ ขี้ข้า” หมายถึง คนรับใช้เป็นคำที่ไม่สุภาพ เป็นคำประชดเชิงเปรียบเทียบบ่งบอกฐานะว่าต้อยต่ำ เป็นคำดูถูกเหยียดหยามว่ามีฐานะต้อยต่ำโดยใช้เป็นคำด่า แต่เมื่อคำว่า “ ขี้ข้า”นี้หมายถึงตัวจำเลยและครูในโรงเรียนที่ถูกใช้งานไม่ได้พาดพิงถึงผู้เสียหายแต่อย่างใด จึงไม่เป็นการดูหมิ่นซึ่งหน้า เป็นเพียงคำพูดน้อยเนื้อต่ำใจที่ถูกใช้งานอย่างหนักเหมือนไม่ใช่ข้าราชการครู แต่เป็นคนรับใช้ตามบ้าน

ไม่มีความคิดเห็น: