ค้นหาบล็อกนี้

วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ตำรวจพายิ่งลักษณ์หนี

เทียบ คำพิพากษาฎีกาที่ 207/2517 โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม 2508 ถึงวันที่ 10 กันยายน2508 ทั้งเวลากลางวันและกลางคืนติดต่อกัน จำเลยได้บังอาจช่วยนายทิม อยู่ดี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำผิดและถูกพนักงานอัยการจังหวัดจันทบุรีฟ้องในข้อหาฆ่านายเจริญ มาลาวงษ์ ศาลจังหวัดจันทบุรีพิพากษายกฟ้อง ตามคดีหมายเลขแดงที่ 797/2513 โจทก์อุทธรณ์ ศาลจังหวัดจันทบุรีนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่นายทิมอยู่ดี จงใจหลบหนีไม่ไปฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลจังหวัดจันทบุรีจึงออกหมายจับนายทิม อยู่ดี เพราะเป็นผู้กระทำผิดฐานหลบหนีไม่ไป ศาลฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จำเลยได้บังอาจช่วยนายทิม อยู่ดี โดยให้พำนักโดยซ่อนเร้นนายทิม อยู่ดี และเมื่อตำรวจติดตามจับกุมนายทิม อยู่ดี จำเลยก็ช่วยบอกให้นายทิม อยู่ดี ทราบล่วงหน้าเพื่อหลบหนีไม่ให้ถูกจับกุม และเพื่อไม่ให้นายทิม อยู่ดี ต้องโทษ เหตุเกิดที่ตำบลกระแจะ อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189
ศาลชั้นต้นสั่งว่า การกระทำของจำเลยตามที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 เพราะการที่ศาลออกหมายจับนายทิม อยู่ดี จำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 797/2513 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 182 นั้น เป็นการออกหมายจับเพื่อให้ได้ตัวนายทิมจำเลยมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เท่านั้น หาใช่เพราะนายทิมจำเลยกระทำความผิดหรือต้องหาว่ากระทำความผิดฐานหนึ่งฐานใดอันมีโทษตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ไม่ ให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 บัญญัติลงโทษผู้กระทำการช่วยเหลือผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด เพื่อมิให้ต้องรับโทษ มิได้บัญญัติลงโทษผู้ไม่มาฟังคำพิพากษาของศาล ศาลอุทธรณ์ได้ตรวจแล้วไม่พบว่ามีตัวบทกฎหมายใดบัญญัติว่า คู่ความซึ่งไม่มาฟังคำพิพากษาของศาลตามวันนัด มีความผิดและมีโทษทางอาญา นายทิมจึงไม่เป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด การกระทำของจำเลยจึงไม่ครบองค์ความผิดตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้าง พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ปัญหาจะต้องวินิจฉัยว่า นายทิม อยู่ดี เป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 หรือไม่ พิเคราะห์แล้ว สำหรับคดีที่นายทิมถูกฟ้องในข้อหาว่าฆ่านายเจริญ นั้น ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แม้คดีจะยังไม่ถึงที่สุด แต่ตราบใดที่ยังไม่มีคำพิพากษาของศาลสูงเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ก็ต้องถือว่า นายทิมไม่ใช่ผู้กระทำผิดในข้อหาฐานนี้ คงเหลือแต่เรื่องนายทิมจงใจหลบหนีไม่ไปฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จนศาลจังหวัดจันทบุรีออกหมายจับว่าจะเป็นการกระทำผิดหรือไม่ เห็นว่าการที่ศาลจังหวัดจันทบุรีออกหมายจับนายทิม ก็เพื่อให้ได้ตัวนายทิมมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ หาใช่ออกหมายจับเพราะนายทิมกระทำผิดฐานหลบหนีไม่ไปศาลดังที่โจทก์กล่าวในฟ้องไม่ นายทิมจึงไม่ใช่ผู้กระทำความผิด หรือผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด การที่จำเลยช่วยเหลือนายทิมด้วยประการต่าง ๆ ดังฟ้อง จึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องเสียนั้นชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

ไม่มีความคิดเห็น: